เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในช่วงเย็นยังคงมีพสกนิกรหลั่งไหลเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เทศกิจ และกลุ่มอาสาสมัครคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังมีบริการอาหาร น้ำดื่ม และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่คอยให้บริการ กระจายตามจุดต่างๆ ด้านเต็นท์พักคอยด้านทิศเหนือ
เวลา 15.00 น. บาทหลวงเดนนิส มัลลินเนอร์ อายุ 76 ปี อดีตพระอาจารย์สอนภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส และภรรยา นางชไมพร มัลลินเนอร์ อายุ 75 ปี อดีตพระอาจารย์สอนวิชาหัตถศึกษากับวิชาศิลปะ ที่โรงเรียนจิตรลดา ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมฟังพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ในพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ภายหลังเสร็จพระราชพิธี นางชไมพร เผยความรู้สึกว่า หลังจากทราบข่าวสวรรคตของในหลวงร.9 ก็เศร้าโศกใจมาก แต่ไม่สามารถเดินทางมาได้ทันที เนื่องจากติดภารกิจ ที่ผ่านมาได้เป็นผู้นำชักชวนคนไทยที่อยู่ประเทศอังกฤษร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี บรรยากาศตอนนั้นมีความเศร้ามาก ทุกคนล้วนคิดถึงในหลวงร.9
นางชไมพร กล่าวว่า สมัยสาวๆ เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ตนได้เป็นพระอาจารย์อยู่ในโรงเรียนจิตรลดา และได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เป็นพระอาจารย์สอนเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์ร่วมกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆอย่างเท่าเทียมกัน เพราะในหลวงร.9 รับสั่งให้สอนเฉกเช่นนักเรียนคนอื่นๆ นอกจากนี้ ในหลวงร.9 ทรงมีรับสั่งให้ไปสอนวิชาชีพแก่ทหารผ่านศึกกับมูลนิธิสายใจไทย ที่ผ่านศึกสงครามจากเวียดนาม จนได้รับบาดเจ็บและพิการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ในหลวงร.9 ทรงย้ำทุกวันไม่ให้ทอดทิ้งทหารผ่านศึกที่ไม่มีอาชีพ บางคนขาขาด แขนขาด ได้มีวิชาชีพติดตัวไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกที่ได้สอนหนังสือกับเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์ นางชไมพร กล่าวว่า “ตอนนั้นตนเองยังสาวมาก สอนตามหน้าที่ของครูตามปกติไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเกร็ง พอมีอายุมากขึ้นคิดว่าที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆ นอกจากนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานน้ำสังข์กับคนต่างชาติเป็นคู่แรก เมื่อปีพ.ศ.2512 โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแม่สื่อ” นางชไมพร กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
ด้านบาทหลวงเดนนิส เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวงร.9 จำได้ว่ามีรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษความว่า “ให้ทำตัวตามสบาย” ซึ่งเป็นพระเมตตาทำให้ไม่รู้สึกเกร็ง ตนได้ทูลถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “สบายดีไหม” ทรงรับสั่งกลับมาว่าง “ส.บ.ม.” ตอนนั้นยังไม่เข้าใจความหมาย จึงทูลถามถึงความหมาย พระองค์ทรงตอบกลับมาว่า “สบายมาก” เหตุการณ์นั้นทำให้ตนรู้สึกประทับใจที่ทรงให้ความเป็นกันเอง ต่อมาบิดาของตนชราภาพมาก จึงขอทูลลาไปดูแลบิดาที่ประเทศอังกฤษสักระยะหนึ่ง กระทั่งปัจจุบันได้เป็นบาทหลวงประจำสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร