เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนต์ รอง ผบก.ทท. ร.ต.อ.นิธิธนนท์ ภัทรหิรัญชัย รอง สว.งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 444/2559 ลงวันที่ 24 พ.ย.59 เข้าตรวจค้นที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 35/41 ซอยเพชรบุรี 1 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. หลังจากที่สืบทราบว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนภายในอาคารดังกล่าว

201611251602465-20140724141910

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านตัดผม ส่วนภายในเปิดเป็นห้องพักรายเดือนแบ่งให้เช่ามีทั้งหมด 10 ห้อง บริเวณชั้น 5 ห้องเลขที่ 5A ในห้องดังกล่าวมีนายฉัตรชัย สะแกทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305/1 ตรอกโรงหนังเฉลิมรัตน์ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เช่าอาศัยอยู่กับแฟนสาว เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นและทำการตรวจสอบภายในห้อง พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่ใต้ฝ้าเพดานในห้องน้ำ ประกอบด้วยอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด.22 จำนวน 59 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 9มม. จำนวน 30 นัด โครงปืนที่ยังประกอบไม่เสร็จจำนวน 2 อัน พานท้ายปืนจำนวน 2 ด้าม ซองปืน 5 ซอง ถังพลาสติกสีแดงภายในใส่ผ้านวมและทรายจำนวน 1 ถัง ชิ้นส่วนปืนบีบีกัน อุปกรณ์การช่างที่ใช้ประกอบปืน ปลอกกระสุนที่ใช้แล้วและชิ้นส่วนอาวุธปืนหลายรายการ

201611251602442-20140724141910

จากการสอบสวนนายฉัตรชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างขายเสื้อผ้าอยู่ย่านประตูน้ำ และขายเสื้อผ่านทางออนไลน์ด้วย ซึ่งตนนั้นมีความชอบทางด้านอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว และได้ศึกษาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต และได้สั่งซื้ออาวุธปืนและชิ้นส่วนต่างๆผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อเก็บสะสมมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยส่วนใหญ่จะซ้อมยิงปืนอยู่ในห้อง โดยยิงลงในถังสีแดงที่ตนนำผ้านวมและทรายใส่ไว้ภายใน เนื่องจากเก็บเสียงและไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น แต่เนื่องจากอาวุธปืนมีราคาแพง ตนจึงเลือกซื้อเป็นชิ้นส่วนของปืนบีบีกันเพื่อนำมาประกอบเอง โดยดูวิธีการประกอบผ่านทางเว็ปไซด์ยูทูป ทั้งนี้ ยืนยันไม่ได้ซื้อปืนมาเพื่อก่อเหตุหรือส่งขาย เป็นความชอบส่วนตัวและไว้สะสมเท่านั้น

201611251602401-20140724141910

ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้การจับผู้ที่จำหน่ายอาวุธปืน และชิ้นส่วนอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์ และใช้วิธีส่งของผ่านทางไปรษณีย์ที่ จ.สมุทรปาการ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่ามีการส่งชิ้นส่วนอาวุธปืนมาที่อาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายค้นของศาลอาญา จนสามารถจับกุมตัวนายฉัตรชัยได้พร้อมของกลาง จากการตรวจสอบนายฉัตรชัยเคยมีประวัติโดนจับคดีครอบครองยาเสพติดโดยผิดกฎหมายเมื่อปี 2555 ในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง แต่ไม่เคยมีประวัติการทำความผิดด้านอาวุธปืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายฉัตรชัย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไทดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในวันนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการออกหมายค้นทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 37 จุด ในทั้งนี้การระดมกวาดล้างอาวุธปืนในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ดำเนินการมากว่า 3-4 สัปดาห์ สามารถตรวจยึดอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 600-700 นัด โดยอยากฝากเตือนบุคคลที่ขายปืนผ่านทางเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กต่างๆ เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และทางเจ้าหน้าที่จะตามจับกุมตัวดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน