เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้า คดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด เศรษฐีหมื่นล้านว่า เมื่อ 2558 เกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ ขับรถไปชนต้นไม้จนทำให้นายชูวงศ์ถึงแก่ความตาย ในพื้นที่ของสน.อุดมสุข เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ ต่อมาญาติของผู้ตายสงสัยว่า น่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมแล้วจัดฉากให้รถชนต้นไม้ เพื่อให้เป็นอุบัติเหตุ ก่อนร้องเรียนไปยังสำนักตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอโอนคดีให้กองปราบปรามเข้ามาดำเนินการ

พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวต่อว่า จากนั้นพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. จึงสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม เข้ามาดำเนินการจนมีพยานหลักฐาน ปรากฏได้ว่าไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุขับรถชนต้นไม้จนทำให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย แต่เชื่อว่าจะเป็นฆาตกรรมนายชูวงษ์ก่อน แล้วก็นำศพมาจัดฉากรถชนจนทำให้ถึงแก่ความตาย

ต่อมาก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับพ.ต.ท.บรรยิน ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดการกระทำอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และสั่งไม่ฟ้องในข้อหาขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิเศษ ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาสำนวนไปแล้ว ซึ่งอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวน ไปสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็นอีกหลายครั้ง จนในที่สุดพนักงานอัยการก็มีความเห็นเช่นเดียวกันกับพนักงานสอบสวนว่า โดยสรุปมีความเห็นสั่งฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน พร้อมนัดหมายให้ส่งตัวพ.ต.ท.บรรยิน มาพบภายในวันที่ 15 มิ.ย. นี้ เพื่อสั่งฟ้อง โดยพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพ.ต.ท.บรรยิน ให้มาพบก่อนในวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 09.00 น. เพื่อพาตัวไปส่งอัยการ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ต่อไป

รองผบก.ป. กล่าวต่อว่า เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว ก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม และพร้อมที่จะไปสืบพยานกันในชั้นศาล เพราะพนักงานสอบสวนเองมีพยานหลักฐานหลายอย่างที่ได้ไปรวบรวมมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานที่เกิดเหตุ ที่ปรากฎหลักฐานอย่างชัดเจน จนเชื่อได้ว่าอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ไม่น่าจะทำให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตายได้ โดยแผนประทุษกรรม ของคนร้ายคือใช้ของแข็งทุบตีนายชูวงษ์จนถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำศพมาจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุจะมีกี่คนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงมีความเห็นสั่งฟ้องพ.ต.ท.บรรยินเพียงรายเดียวก่อน

ส่วนเรื่องการให้ประกันตัว คงเป็นดุลยพินิจของศาลและอัยการ แต่หากว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่จะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ที่จะทำให้ขบวนการสืบพยานในอนาคตเกิดความเสียหาย พนักงานสอบสวนก็ยืนคำร้องต่อศาลทันที

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวถึงเรื่องมูลเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดการฆาตกรรมนั้น เชื่อว่ามาจากเรื่องของหุ้นมูลค่านับร้อยล้านบาทที่ได้ฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยผู้ต้องหาเตรียมการไว้ก่อน หลังจากนัดหมายนายชูวงษ์ออกไปเล่นกอล์ฟ ก่อนที่จะกลับออกมาในยามค่ำมืดแล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น คดีนี้เมื่ออัยการสั่งฟ้องในคดีฆ่าโดยไตร่ตรองแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้าทางญาติของผู้ตายจะไปยื่นฟ้องต่อศาลด้วยตนเอง และศาลก็ประทับรับฟ้องไปแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากอัยการก็มีอำนาจสั่งฟ้องอยู่แล้ว ในอนาคตก็ต้องนำมาร่วมกันอยู่ดี โดยอาจเป็นโจทย์ร่วมกันระหว่างพนักงานอัยการและญาติผู้ตายก็เป็นได้








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน