ตำรวจยึดรถเบนซ์หรูซึ่งคาดว่าเป็นรถคันที่ใช้ยัดศพไปฆ่าเผานั่งยาง เศรษฐินีสาว บริเวณป่าพรุและทุ่งนาร้าง บ้านท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานจึงเข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานมาประกอบคดี

รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่นซี200 ของเศรษฐินีสาว

จากกรณีสภ.คอหงส์ รับแจ้งเหตุพบศพถูกเผานั่งยาง บริเวณป่าพรุและทุ่งนาร้าง บ้านท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นศพของน.ส.ภิญญดา แป้นจันทร์ อายุ 48 ปี หรืออ้อย นักธุรกิจขายตรงและขายประกัน ซึ่งเป็นเศรษฐินีหน้าตาดี ที่หายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับรถเบนซ์สีดำ จากพยานหลักฐานเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของอดีตสามีเก่า

ตรวจหาพยานหลักฐานจากรถเบนซ์ของเศรษฐินีสาว

สำหรับความคืบล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่สภ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา ไหมขาว หรือ โรจน์ อดีตสามีของน.ส.ภิญญดา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำการใดๆ กับศพเพื่ออำพรางคดี ทำลายศพหรือส่วนใดของศพ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งจากการสอบปากคำนายกฤษฎายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อดีตผัวขับรถเบนซ์ของเศรษฐินีสาว ไปจอดไว้ที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา

ต่อมาเวลา 13.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ สีดำ รุ่น ซี200 ทะเบียน ขค333 สงขลา แล้ว ซึ่งเป็นรถของน.ส.ภิญญดา จากแนวทางการสอบสวนพบว่าเป็นรถที่ใช้ยัดศพออกจากบ้านพักใน ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ไปเผานั่งยางที่ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร โดยรถเบนซ์คันนี้ถูกนายกฤษฎาขับไปจอดไว้ที่บ้านเครือญาติหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา และมีการถอดป้ายทะเบียนทั้งข้างหน้าและข้างหลังออก

พฐ.ตรวจเก็บหลักฐานจากรถของเศรษฐินีสาว

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า หลังพบรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำมาไว้ที่สภ.เมืองสงขลา และให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานทันที ทั้งภายในและภายนอกรถ รวมถึงรอยคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องหา และหลักฐานประกอบอื่นๆ ที่อาจจะหลงเหลืออยู่ภายในรถ เพื่อนำมาประกอบคดี

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า รถเบนซ์คันนี้ น.ส.ภิญญดาหวงมาก และไม่ยอมให้ใครขับแม้แต่นายกฤษฎา จึงเป็นหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่นำมาเชื่อมโยงประกอบคดีเอาผิดกับนายกฤษฎา ที่ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งแม้จะมีพยานและหลักฐานแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน