โฉ่อีก! ตำรวจภาค 1 จับพ.ต.ท. สังกัดนครบาลกับเมีย นำรถเก๋งคัมรี่ของเพื่อนไป ไม่ยอมคืน แถมติดต่อไม่ได้

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.1 ร่วมกับสภ.ปากเกร็ด จับกุมตัวพ.ต.ต.ธนวินท์ บัวหลวง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 บช.น. พร้อมด้วยน.ส.ภัคจิรา มากคูณ ภรรยา

จับพตท.

หลักฐานภาพวงจรปิดชัด

ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ภายหลังนำรถเก๋งโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆพ-1713 กรุงเทพมหานคร ของนายกำพล เลิศศิริเภสัช อายุ 42 ปี ที่อยู่ 304 ม.6 ต.ปักเป้า อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปแล้วไม่ยอมคืน เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถด้านหลัง อาคารเคหะสถาน 11 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ด้านพล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า จับวันที่ 2 มิ.ย. ทางชุดสืบสวนไปดักจับที่พัก ได้ทั้งตัวสารวัตรและผู้หญิงคนดังกล่าวซึ่งเป็นภรรยาที่ร่วมก่อเหตุ

“ตอนแรกหลังเกิดเหตุได้สั่งให้พยายามประสานตามตัวสารวัตรผู้ก่อเหตุแต่ตามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา กลับปิดโทรศัพท์หนีไป ก็เลยต้องไปดักจับ” ผบช.ภ.1 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มขึ้นจาก เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งจากนายกำพล เลิศศิริเภสัช อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304 ม.6 ต.ปักเป้า อ.วังสะพุง จ.เลย ว่าถูกคนร้ายขโมยรถ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆพ-1713 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลัง อาคารเคหะสถาน 11 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไป

นายกำพล ให้การว่าพักอาศัยอยู่ที่ ชั้นที่ 5 อาคารดังกล่าว และได้จอดรถยนต์ไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา และขึ้นไปนอนที่ห้องพัก เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค. ได้ยินเสียงสัญญาณรถดัง แต่คิดว่าเป็นรถคนอื่นจึงไม่ได้ลงมาตรวจสอบ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ลงมาจากห้องพัก จึงพบว่ารถยนต์ของตนได้หายไป สอบถาม นิติบุคคล แจ้งว่าได้ยินเสียงสัญญาณดัง พบเห็นมีผู้ขับรถของตนออกไปด้วยความเร็ว

ต่อมาตร.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ อาคารเคหะ 9 ซึ่งอยู่ติดกัน เห็นคนร้ายขับรถออกไปจากลานจอดรถหลังตึก ผ่านตลาดสหกรณ์ 3 ออกถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ผ่านดับเพลิง ขึ้นสะพานข้ามถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาถนนสามัคคี จากนั้นเลี้ยวซ้ายออกถนนติวานนท์ และผ่านแยกสนามบินน้ำ ก่อนเห็นครั้งสุดท้ายเลี้ยวซ้ายเข้าซอยติวานนท์ 38

จากการสอบถามผู้เสียหายแจ้งว่าก่อนหน้าที่รถยนต์ของตนจะสูญหาย มีพ.ต.ต.ธนวินท์ บัวหลวง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 บช.น. ซึ่งเป็นเพื่อนกันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยขอยืมรถไปใช้ ในวันที่ 21 เม.ย. เวลา 05.00 น. และนำมาส่งคืน เวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งหลังจากที่รถยนต์สูญหายไป ตนพยายามโทรติดต่อพ.ต.ต.ธนวินท์ แต่ไม่ยอมรับโทรศัพท์

ต่อมาชุดสืบสวนกก.สส.ภ.1 ทราบว่า พ.ต.ต.ธนวิน พักอาศัยอยู่ที่อาคารชุด วีคอนโด ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบสมุดบันทึกรายการ ชื่อและรถ ผู้ที่เข้ามาติดต่อผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโด

พบว่ามีรถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฆพ 1713 กรุงเทพมหานคร เข้ามาติดต่อ ห้อง 19/70 ไม่ทราบชื่อเจ้าของห้องพัก แต่ชื่อนามสกุลผู้ติดต่อคือน.ส.ภัคจิรา มากคูณ ซึ่งเป็นภรรยาพ.ต.ต.ธนวินท์ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางเข้าวีคอนโด พบเห็นรถผู้เสียหาย ขับเข้ามาเวลา 05.32 น. ของวันที่ 5 พ.ค. โดยแลกบัตรผู้ติดต่อประตูทางเข้าและเข้ามาจอดรถบริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคาร

หลังจากนั้นเห็นพ.ต.ต.ธนวินท์และน.ส.ภัคจิรา ลงมาจากรถเดินเข้าไปในคอนโด จนกระทั่งเวลา 13.13 น. วันเดียวกัน ทั้งคู่จึงลงมาจากคอนโดและขับรถของผู้เสียหายออกไป ก่อนกลับมาอีกครั้งเวลา 14.24 น. จากนั้นจึงขับออกไปจากคอนโดดังกล่าว

ภายหลังได้ข้อมูลครบถ้วน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับทั้ง 2 คน จากศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” โดยศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ 302-303/2561 ลงวันที่ 31 พ.ค. ตามคำขอ จนนำมาสู่การดักจับกุมตัวทั้งคู่ดังกล่าวข้างต้น

ขณะที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า นอกจากมีร.ต.ท.สังกัดบก.จร. เข้าไปเกี่ยวข้องกับการขโมยรถแล้ว ยังมีพ.ต.ต.นายหนึ่งสังกัดบก.น.4 ถูกจับข้อหาลักรถอีก 1 ราย

“คดีดังกล่าวเป็นพื้นที่ของบช.ภ.1 รับผิดชอบ ทั้งนี้เมื่อพบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริงก็จะสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันทีเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป” ผบช.น. กล่าว

อ่านข่าว : สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับแก๊งลักรถรายใหญ่ ฉกตามใบสั่ง-ส่งสวมทะเบียน ตะลึง!หลักฐาน”รตท.”หัวโจก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน