ทลายแก๊งคอลไต้หวัน ‘บิ๊กโจ๊ก’ นำทีมตร.ไทย ประสานตร.ฟิลิปปินส์ บุกจับ หลังเช่าบ้านย่านชานกรุงมะนิลา โทรหลอกลวงเหยื่อชาวไทยสูญ 2 ล้าน ก่อนรวบ 16 คนไทย 3 ไต้หวัน พบเสียหายแล้วร่วม 30 ล้านบาท

ทลายแก๊งคอลไต้หวัน

บิ๊กโจ๊ก สอบผู้ต้องหา

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศฟิลิปปินส์ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบคอลเซ็นเตอร์ พร้อมด้วยน.อ.(พิเศษ)พลวัตร อินทรวิเศษ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำกรุงมะลิลา ประเทศฟิลิปปินส์

ทลายแก๊งคอลไต้หวัน

นาทีเจ้าหน้าที่บุกจับ

ทลายแก๊งคอลไต้หวัน / ร่วมด้วยพ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.ภ.2

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผบก.สส.ภ.5 นายบ็อบบี้ อาร์ ราเคสโป้ หัวหน้าสืบสวนหาข่าว สำนักงานตรวจคนคนเข้าเมือง

ทลายแก๊งคอลไต้หวัน

3หัวโจก ชาวไต้หวัน

พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รองผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ. บก.สปพ. พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รองผกก.สส.บก.น.1

พ.ต.ท.ศิลา ตันตระกูล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ พ.ต.ต.พรชัย สุขเจริญ สว.สส.สน.พระยาไกร พ.ต.ต.นที คุ้มล้วนล้อม สว.งานสายตรวจ 2 บก.จร.

 

สนธิกำลังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศฟิลิปปินส์ เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 29 การ์เร็ท หมู่บ้านโพซาดัส วินเลส ในเขตอาลาบัง หลังสืบทราบว่าเป็นฐานปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูสองชั้น เนื้อที่กว่า 100 ตารางวา ห่างจากใจกลางกรุงมะนิลา 5 กิโลเมตร บริเวณชั้นล่างเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ บริเวณชั้นสองมีทั้งหมด 3 ห้องใช้เป็นห้องนอน และฐานปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์

เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ เร้าเตอร์อินเตอร์เน็ต เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบโพยรายชื่อเหยื่อชาวไทย และโพยบทสนทนาที่ใช้หลอกคนไทยจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นบทสนทนาแอบอ้างหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากคณะชุดทำงานจากศป.ฉปทน.ตร. สืบทราบว่าขบวนการนี้ได้หลอกเหยื่อให้หลงโอนเงินกว่า 2 ล้านบาทในพื้นที่ จ.นนทบุรี

จึงแกะรอยจนพบว่ามีการตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนประสานความร่วมมือทางการสืบสวนกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในการทลายเครือข่ายดังกล่าว

โดยเบื้องต้นสามารถคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 19 ราย เป็นคนไทย 16 ราย ไต้หวัน 3 ราย พบว่าขบวนการนี้มีความเชื่อมโยงกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในรัฐปีนัง และรัฐยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเชีย โดยตั้งมาได้กว่า 1 ปี ก่อนจะหยุดไปช่วงสงกรานต์

จากนั้นก็เปิดหลอกลวงเหยื่ออีกครั้ง ซึ่งมีการเช่าบ้านหลังดังกล่าวมีชาวไต้หวัน 3 นายเป็นคนดูแล หนึ่งในนั้นคือนายจอห์นี่ เป็นผู้ควบคุม โดยภาพรวมขบวนการนี้หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 30 ล้านบาท

จากการสอบถามคนไทย ส่วนใหญ่อ้างว่าถูกชักชวนให้มาทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ จากการประกาศหางานในเฟซบุ๊กและเว็บไซต์หางานทั่วไป อีกทั้งบางส่วนสมัครใจเดินทางมาทำคอลเซ็นเตอร์

โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งจากการตรวจสอบการเดินทาง พบว่าหลายคนเข้าออกระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ หลายครั้งแล้ว

อย่างไรก็ตามในการทำงานปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ขบวนการเหล่านี้หลอกลวงคนไทยได้อีก

โดยปฏิบัติการครั้งนี้ทางการฟิลิปปินส์ให้ความร่วมมือ ช่วยตามรอยเบาะแสและพิกัดที่ตั้ง และยังให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทย พร้อมชุดสายสืบเข้าร่วมจับกุมด้วย ถือเป็นการทำงานตามแนวทาง ‘วันเวิลด์ วันทีม’ หรือ‘ตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก’

“ฝากถึงคนไทยที่คิดจะทำการในลักษณะนี้ขอให้หยุดกระทำ ไม่เช่นนั้นตำรวจไทยจะบังคับใช้กฏหมายและติดตามจับกุมแบบนี้ จากนี้จะดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนจะผลักดันกลับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน