ปปง. ผนึกเครือข่าย อัดยาแรง ใช้มาตราการ ยึดทรัพย์ ผู้เกี่ยวข้อง เว็บพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพิ่มความเข็มข้น ช่วงฟุตบอลโลก 2018 เอาจริง ตั้งสายตรวจไซเบอร์ จับตาเว็บรับแทงพนัน บัญชีต้องสงสัย หากพบความเกี่ยวข้อง ให้รีบรายงาน เพื่อขยายผลทันที

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ถนนพญาไท พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตัวแทนสถาบันการเงิน 36 แห่ง ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อจัดทำแนวทางการประสานงาน ระหว่างศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ยึดทรัพย์

แผนผังเครือข่ายเว็บพนัน

ยึดทรัพย์ / พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวว่าตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญ และเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันปราบปรามการ พนันออนไลน์ โดยเฉพาะขณะนี้เป็นช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018

เพื่อให้การดำเนินการสัมฤทธิ์ผล ตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมกำหนดมาตรการในการปฏิบัติ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการเงินทั้ง 36 แห่ง รวมทั้งTELCO (ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และ e – money) โดยเบื้องต้น เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือระดับผู้บริหาร เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติร่วมกันไปแล้ว

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ได้เชิญระดับผู้ปฏิบัติมาประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างความความเข้าใจและความชัดเจน โดยจะได้มีการกำหนดมาตรการในการปฏิบัติ ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมร่วมกัน ดังนี้

1.ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ปปง. จะดำเนินการสืบสวนทางไซเบอร์ บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับการลักลอบการพนันออนไลน์ในทุกมิติ (ในรูปแบบสายตรวจไซเบอร์ และการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ) โดยจะมีการประสานการปฏิบัติกับสํานักงานตํารวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิด

2.เมื่อมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดพนันออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะประสานข้อมูลมา เพื่อใช้มาตรการในการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กับผู้ลักลอบเล่นการพนัน ผู้เป็นเจ้าของบัญชี เจ้าของเว็บไซต์ ผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน และผู้รับประโยชน์แท้จริงอย่างครบวงจร

3.สำหรับ สถาบันการเงินทั้ง 36 แห่ง และ TELCO จะมีมาตรการในการเฝ้าระวังบัญชีต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ และหากตรวจพบบัญชีต้องสงสัย ก็จะรายงานไปยังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการพนันออนไลน์ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการสืบสวนขยายผลในทันที

“นอกจากคดีพนันออนไลน์แล้ว ยังได้มีแนวทางที่จะยกระดับการปฏิบัติ และขยายขอบเขตการดำเนินการร่วมกัน ให้ครอบคลุมทั้ง 26 มูลฐานความผิด และแต่ละหน่วยงานจะได้กำหนด POC ( Person of contact ) เพื่อให้การบูรณาการ และการขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เท่าทันเหตุการณ์ จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน รวมถึงนิสิตนักศึกษาและผู้ปกครอง ให้ช่วยเตือนบุตรหลาน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว อาจจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินอย่างจริงจัง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นบุคคลใดที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการพนันออนไลน์สามารถแจ้งเบาะแสมาที่ สายด่วน ปปง. 1710” พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าว

ด้านพล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2560 ศูนย์ป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ศป.ฉปทน.ตร.) ร่วมกับ ปปง.และเครือข่ายธนาคารทุกแห่งในประเทศไทย ดำเนินการระงับยับยั้งเงินของผู้เสียหายที่ถูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงไปได้อย่างรวดเร็ว

และส่งคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 114 ราย มูลค่ารวมประมาณ 22 ล้านบาท โดยได้คืนเงินจำนวนดังกล่าวแก่ผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ ก็เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายในการดำเนินการร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ถูกหลอกลวงจากกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในวันนี้ ได้จัดสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ดังนี้ 1.การดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้ายในเชิงลึกเพื่อยึดทรัพย์ดังกล่าว และดำเนินคดีฟอกเงินกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกราย

2.การหามาตรการแก้ไขปัญหาการระงับยับยั้งเงินของผู้เสียหายอย่างทันท่วงที และเพิ่มวิธีป้องกันเงินของผู้เสียหายที่จะถูกหลอกลวง และถอนออกจากบัญชี

3.การสร้างเครือข่ายการเฝ้าระวังระหว่างธนาคารด้วยกัน ในการยักย้ายถ่ายโอนเงินของคนร้าย ระหว่างธนาคารด้วยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานงานการปฏิบัติ

4.การตรวจสอบข้อมูลของคนร้าย ที่ใช้ธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

“เชื่อแน่ว่าในการจัดสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป” พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน