โจ๋โคตรหื่น ดักตีหัวป้าปั่นจักรยานไปทำงาน ข่มขืนโหด บีบคอสลบปางตาย
โจ๋โคตรหื่น ข่มขืนป้าวัย 43 / วันที่ 21 มิ.ย. ร.ต.อ.ชาณวิทย์ ดาวเรือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.หนองขาว ได้มีแม่ชี อายุประมาณ 78 ปี มาแจ้งว่า ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวว่าถูกคนร้ายใช้ของแข็งดักตีศรีษะและลงมือข่มขืนจนสลบ ซึ่งแม่ชีไม่ทราบว่าจุดเกดเหตุนั้นอยู่บริเวณใด
จากนั้นได้ประสาน พ.ต.อ.พงษ์ธรณ์ เอื้อประเสริฐ ผกก.สภ.หนองขาว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ช่วยกันออกติดตามหา จนกระทั่งพบ น.ส.พา (นามสมมุติ ) อายุ 43 ปี อาชีพแม่บ้านหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง สภาพอิดโรยและเพิ่งฟื้นจากการสลบขึ้นมา แต่ยังไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งหรือยืนได้ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่บนทางเดินกลางทุ่งนาพื้นที่ใน ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง และอยู่ห่างจากบ้านพักเพียงแค่ประมาณ 50-60 เมตร
ที่เกิดเหตุมีรถจักรยาน ล้มคว่ำอยู่ข้างกาย นอกจากนี้ยังมีขวดน้ำ ถุงสับปะรด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือตกอยู่ ที่มือซ้ายถือกระเป๋าสตางค์เอาไว้ ที่ปากมีคราบเลือดติดอยู่ ส่วนกางเกงขาวยาวสีดำที่สวมใส่อยู่ไม่ได้รูดซิป และเนื่องจากอาการของ น.ส.พา น่าเป็นห่วงเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เป็นการเร่งด่วน
น.ส.พา ในเบื้องต้นให้การว่า ขณะที่กำลังปั่นรถจักรยานออกไปทำงานระหว่างทางอยู่ๆ ก็มีคนร้ายเป็นชายใช้ของแข็งตีเข้าที่ท้ายทอยของตนอย่างจนทำให้รถจักรยานล้มลง จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้ใช้มือบีบเข้าที่ลำคอและลงมือข่มขืน
ซึ่งตนจำได้ว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้นเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แต่ระหว่างที่ลงมือข่มขืนอยู่ได้ใช้มือบีบคอตนจนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมา จึงรีบโทรศัพท์ไปบอกแม่ที่เป็นแม่ชี
สถานที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุได้ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว ได้ไปเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ พร้อมกับนำตัวอย่างที่สามารถเก็บได้ส่งไปตรวจดีเอ็นเอ คาดว่าคงจะรู้ผลในเร็วๆนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหายังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา และข่มขืนหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตนเอง
ญาติผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ดูที่เกิดเหตุ
จากนั้นนายจีระเกรียติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา นายอำเภอท่าม่วง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลฯ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.พา พร้อมกับมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง พร้อมกับรับปากกับญาติของผู้เสียหายว่าจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ผวจ.กาญจนบุรีและกาชาด เข้าเยี่ยมผู้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับผู้เสียหาย อาศัยอยู่กับพ่อตามลำพังเพียง 2 คน ซึ่งพ่อของพ่อเสียหายอายุมากกว่า 80 ปี อีกทั้งยังเป็นคนพิการ ส่วนแม่ของผู้เสียหายก็มีอายุมากแล้ว และได้ไปบวชชี ทำให้ผู้เสียหายต้องคอยเลี้ยงดูพ่อที่ชรา โดยต้องปั่นรถจักรยานออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ของทุกวันเพื่อไปทำงาน
