รอง ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.น.3 และสน.มีนบุรี เร่งคลี่คดี ฆ่าหั่นศพ สาวผมแดง ก่อนยัดกระเป๋าหมกป่ามีนบุรี จัดสุนัขตำรวจลงพื้นที่ดมกลิ่นตามหาท่อนแขนขวาที่หายไป เชื่อมีตำหนิบ่งบอกรูปพรรณสัณฐานได้ผู้เสียชีวิตได้

รอง ผบช.น. ประชุมชุดสืบ เร่งคลี่คดีฆ่าหั่นศพสาวผมแดง

จากกรณีสน.มีนบุรีรับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงถูกฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนทั้งส่วนหัว ส่วนลำตัว ใส่กระสอบปุ๋ย 2-3 กระสอบ โยนทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาริ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตรวจพบศพสาวผมแดง มีบาดแผลถูกเฉือนคอนั้น

ฆ่าหั่นศพ / ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม สน.มีนบุรี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน บก.น.3 และฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เพื่อสรุปความคืบหน้าในคดีที่พบศพหญิงสาวในพื้นที่มีนบุรี โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง

บริเวณป่าข้างทางในพื้นที่มีนบุรี ที่พบชิ้นส่วนศพสาวถูกฆ่าหั่นศพ

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ตนได้แบ่งงานให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ผิวขาว น่าจะเป็นคนเอเชีย ชาวจีน ซึ่งจาการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกทุบตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ 5 แผลจนเสียชีวิต ก่อนใช้ของมีคมหั่นศพเป็นท่อนๆ อย่างชำนาญ ก่อนนำมาทิ้งอำพรางไว้

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจพิสูจน์ระบุว่า การหั่นชำแหละศพนั้น คนร้ายน่าจะมีประสบการณ์และความชำนาญในการหั่นชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ ซึ่งในถุงปุ๋ยนอกจากชิ้นส่วนศพแล้ว ยังมีทรัพย์สินและเครื่องประดับของผู้หญิง ชุดชั้นใน เสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตอยู่ด้วย โดยพบว่าเป็นของที่ผลิตในประเทศจีน จึงสั่งการให้หาแหล่งที่ผลิตจำหน่ายให้ชัดเจน ส่วนเสื้อยืดที่เขียนข้อความว่า “ที่นี่..ชะอำ” น่าจะเป็นของที่ระลึกซึ่งนักท่องเที่ยวชอบซื้อใส่กัน

นำสุนัขตำรวจดมกลิ่นตามหาแขนท่อนขวาที่ยังสูญหายเพื่อคลี่คดีฆ่าหั่นศพ

รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ซึ่งจะได้ตรวจสอบว่า เสื้อดังกล่าวซื้อมาจากร้านใดต่อไป นอกจากนี้ ทางตำรวจจะประสานกับทางสถานทูตต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าได้รับแจ้งบุคคลในชาติตัวเองหายตัวไปหรือไม่ และไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหารถต้องสงสัยที่นำชิ้นส่วนศพมาโยนทิ้ง ทั้งนี้ จะต้องรอผลตรวจจากนิติเวช โดยเฉพาะในส่วนของกระเพาะอาหารว่ามีการกินอาหารใดไป เพราะจะทำให้ทราบช่วงเวลาการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ เวลา 16.00 น. ที่สน.มีนบุรี จะมีการประชุมสรุปความคืบหน้าคดีอีกครั้ง โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. จะเดินทางมาร่วมรับฟังความคืบหน้าในคดีดังกล่าวด้วย

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชิ้นส่วนมนุษบ์ที่พบในถุงดำ (แฟ้มภาพ)

หลังจากนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุโดยสอบปากคำนายรัฐศาสตร์ คมขำ อายุ 39 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร ให้การว่า ช่วงวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนปั่นจักรยานออกกำลังกายในเส้นทางจุดเกิดเหตุ สังเกตเห็นกระเป๋าเป้วางไว้ ตนเริ่มสงสัย แต่ยังไม่ได้หยุดดู จนก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเห็นกระเป๋าวางอยู่ที่เดิม มีลักษณะบวมพอง จึงไปบอกเพื่อนมาช่วยกันดู และได้ใช้กรรไกรตัดเห็นถุงดำ เมื่อคลี่มาเห็นศีรษะเป็นเพศหญิงพร้อมผมสีแดง จึงหยุดทันทีแล้วแจ้งตำรวจ ระหว่างนั้น ก็พบถุงปุ๋ยอยู่ลึกในป่า และมีลักษณะเหมือนของภายในบวมและส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา

ขณะเดียวกันในจุดเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้งพร้อมนำสุนัขตำรวจ 2 ตัว ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งจะมุ่งตรวจสอบชิ้นส่วนท่อนแขนขวาที่ยังหาไม่พบในจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าชิ้นส่วนที่ยังหาไม่พบอาจจะมี รูปรอยสักของกลุ่มที่บ่งบอกที่มาได้ แต่ขณะนี้ยังหาไม่พบ โดยจะให้สุนัขตำรวจดมเป็นทางยาวโดยรอบตามถนนในซอยสามวา

สภาพศพสาวผมแดงที่ถูกฆ่าหั่นศพ (แฟ้มภาพ)

เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว อาจส่งผลให้สุนัขตำรวจสับสนจากการดมกลิ่น จึงต้องให้สุนัขดมไปโดยรอบ ก่อนจะให้กลับไปยังจุดเกิดเหตุอีกรอบ และให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาถุงใส่ท่อนแขนดังกล่าว ซึ่งจากการลงตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบท่อนแขนขวาที่หายไปแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นคนสัญชาติจีน เนื่องจากเสื้อผ้า โดยเฉพาะชุดชั้นในที่พบในจุดเกิดเหตุนั้น มีข้อความระบุว่า ทำจากประเทศจีน สำหรับการตรวจกระเพาะอาหารเบื้องต้นไม่พบว่ามีอาหารอยู่ในกระเพาะเลย โดยทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่ากลิ่นเหม็นจากกระเป๋าดังกล่าวโชยส่งกลิ่นมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่พลเมืองดีสงสัยและตรวจดูกระเป๋าในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา

พฐ. ตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนนำชิ้นส่วนสาวถูกฆ่าหั่นศพส่งนิติเวช (แฟ้มภาพ)

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับท่อนแขนขวาที่หายไป มีความเป็นไปได้ว่า ท่อนแขนดังกล่าว อาจมีตำหนิรอยสักรูปพรรณสัณฐานที่สามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตได้ จึงไม่นำมาทิ้งร่วมกับชิ้นส่วนอวัยวะ แต่แยกไปทิ้งอีกที ทั้งนี้ชิ้นส่วนที่พบอยู่ในถุงปุ๋ยห่ออย่างดี จึงตัดประเด็นที่ว่าจะมีสัตว์มาคุ้ยเขี่ยกินชิ้นส่วนศพไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน