วางยา ในน้ำดื่ม ด.ญ.4 ขวบดับ แม่-หลานอีก 2 คน โดนด้วย ดิ้นทุรนทุราย ก่อนเพื่อนส่งโรงพยาบาล แม่เผยรอดมาได้แต่สุดทรมาน พ้อโกรธใครทำไมไม่ไปทำกับคนนั้น

วางยา ในน้ำดื่ม วันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม หลังทราบข่าวว่ามี ด.ญ.วัย 4 ขวบ เสียชีวิตจากการดื่มน้ำที่ผสมยาพิษไม่ทราบชนิด ซึ่งในเหตุการณ์นี้มีผู้ที่ดื่มน้ำผสมยาพิษรวมทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย น.ส.นุจรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ด.ญ.ยิ่ง อายุ 7 ปี ด.ญ.เรไร อายุ 3 ปี และ น้องกะเพรา อายุ 4 ปี ผู้เสียชีวิต

งานศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบ หลังถูกวางยาในน้ำดื่มจนเสียชีวิต

งานศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบ หลังถูกวางยาในน้ำดื่มจนเสียชีวิต

โดยที่บ้านหลังดังกล่าว ได้จังงานศพของ น้องกะเพรา จากการสอบถาม น.ส.นุจรี แม่ของน้องกะเพรา เล่าว่า ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ของวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตน ลูกชาย ลูกสาว และหลานสาว อีก 2 คน รวม 5 คน ได้นั่งล้อมวงกินส้มตำป่า ซึ่งตนได้ให้เงินหลานสาว 40 บาท ไปซื้อส้มตำป่า และขนมมารับประทานร่วมกัน โดยได้นั่งกินกันที่ใต้ถุนบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 200 เมตร

พี่ชายเคารพศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบหลังถูกวางยาจนเสียชีวิต

พี่ชายเคารพศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบหลังถูกวางยาจนเสียชีวิต

ขณะกำลังรับประทานส้มตำป่า ซึ่งรสชาติเผ็ด เด็กๆ ก็ดื่มน้ำ ในกระติกที่ใช้ประจำทุกวัน รวมถึงตน ซึ่งก็สลับกันดื่มน้ำคนละอึกสองอึก แต่น้องกะเพราดื่มน้ำไปถึง 3 แก้ว แต่ว่าลูกชายไม่ได้ดื่มน้ำด้วย หลังจากรับประทานส้มตำป่าเสร็จเรียบร้อย ก็ช่วยกันเก็บกวาด ช่วงระยะเวลาเพียงไม่นาน น้องยิ่ง หลานสาว ก็มีอาการคนแรก

จากนั้นก็มาเป็นน้องกะเพรา ลูกสาวของตน น้องเรไร และตน ซึ่งทั้งหมด มีอาการแขนขาอ่อนแรง เด็กๆ ชักเกร็งตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ส่วนตนก็แขนขาอ่อนแรง พยายามรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ จนเพื่อนบ้านได้ยินจึงได้พากันมาช่วย และโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพกู้ภัย 1669 มาช่วยนำตัวทั้งหมดส่งโรงพยาบาลบรบือ

ต่อมาทางโรงพยาบาลบรบือ ได้ส่งตัวน้องกะเพรา ไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคาม แต่น้องก็เสียชีวิตลง ญาติจึงได้รับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ส่วนตนแพทย์ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบรบือ และอนุญาตให้กลับบ้านได้เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนหลานอีก 2 คน คือ น้องยิ่ง อายุ 7 ปี ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วนน้องเรไร อาการปลอดภัยแล้ว

หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและได้นำน้ำในถังที่คาดว่าจะปนเปื้อนสารพิษไปตรวจสอบ โดยตนยังไม่ทราบว่าเป็นสารพิษอะไร ซึ่งหมอบอกแต่เพียงว่าเป็นสารพิษชนิดร้ายแรง ที่ผ่านมาตนไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ตนได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี ส่วนน้องกะเพรากำลังเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งช่วงนี้ได้กลับมาเยี่ยมพ่อที่กำลังป่วย ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ตอนนี้ก็มืดแปดด้าน เพราะไม่ทราบว่าน้ำปนเปื้อนสารพิษได้อย่างไร ที่ผ่านมาบ้านหลังนี้จะมีพ่อแม่ น้องสาว และหลาน รวม 6 คนอาศัยอยู่ ปกติแล้วน้องสาวก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ตกเย็นก็ปิดบ้านเข้านอน ซึ่งหากตนไม่เจอเหตุการณ์นี้ คนที่โดนก็อาจจะเป็นพ่อแม่น้องสาว และหลานๆ ก็เป็นได้

อยากฝากบอกคนที่ทำว่า ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ครอบครัวตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำไมต้องมาทำแบบนี้ ทำไมไม่สงสารเด็ก น้อยตาดำๆ หวังให้ตายทั้งครอบครัวเลยหรือไง หากเจ็บแค้นกับใคร ทำไมไม่ไปทำกับคนนั้น ตนที่โดนยาพิษยังรู้สึกทรมาน แต่เด็กคงจะทรมานมากกว่า ขอร้องให้รายนี้เป็นรายสุดท้าย อย่าไปทำกับคนอื่น และอยากฝากบอกพ่อแม่ผู้ปกครอง เวลาจะให้ลูกกินอะไรก็ขอให้ดูให้ดีๆ เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นความสะเพร่าของตนที่ไม่ดู ไม่สังเกตให้ดีๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียเกิดขึ้น โดยศพของน้องกะเพราจะทำการฌาปนกิจที่วัดป่าสารญาณมุณี ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้

ด้าน ร.ต.อ.มงคล หาคลัง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บรบือ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากว่า น.ส.นุจรี ก็ได้รับสารพิษด้วย ยังคงมีอาการอาการสะลึมสะลือ ร่างกายยังไม่แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ คงต้องรอให้เสร็จสิ้นจากงานศพก่อน จึงได้เริ่มทำการสอบปากคำ และยังต้องรอผลพิสูจน์ว่าสารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำนั้น เป็นสารพิษชนิดใดกันแน่ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน