“มินิเหลืองกราบรถกู มินิแดงอย่าตีกู” เวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2559 พิกัดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เกิดเหตุการณ์แท็กซี่ ใช้เหล็กตีเจ้าของรถมินิสีแดง ทั้งๆที่เค้าก็ขอโทษแล้วนะ พี่แท็กซี่ก็ใจร้อนเกินไปนะ ตีเค้าเสร็จขับรถหนีเค้าไปอีกนะพี่นะ… ช่วยกันแชร์คับ…

โพสต์โดย Aoffer Chamat Chamat บน 6 ธันวาคม 2016

 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่สน.มักกะสัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาติดตามความคืบหน้า กรณีคนขับรถแท็กซี่ใช้ท่อเหล็กทำร้ายคนขับรถยนต์มินิคูเปอร์สีแดง โดย คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย และมีการแชร์ไปหลายครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปสอบปากคำนายสุทธินันท์ ผลสินธุ์ อายุ 27 ปี ผู้ขับรถมินิคูเปอร์ ที่บ้านพักย่านบางพลี ขณะเดียวกันนายบวรพันท์ ศรีเมฆอายุ 55 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เดินทางมาที่สน.มักกะสัน เพื่อเข้ามอบตัวและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ

อ่านข่าว คลิปแท็กซี่เลือดร้อน คว้าเหล็กหวดไม่ยั้ง ทั้งที่หนุ่มขับรถมินิยกมือไหว้ ยังไม่ยอมหยุด

42206

พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รองผกก.สอบสวนนางเลิ้ง ช่วยราชการรอง ผกก.(สอบสวน) สน.มักกะสัน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสุทธินันท์ ให้การว่าขณะที่ตนกำลังขับรถลงจากสะพานแยกอโศก-เพชรบุรี มุ่งหน้าแยกศูนย์วิจัย เมื่อมาถึงแยกพร้อมพงศ์ซึ่งรถด้านหน้าจอดติดสัญญาณไฟ ตอนนั้นตนขับอยู่เลนกลาง จึงเปิดไฟขอทางออกเลนซ้าย เพราะเลนซ้ายผ่านตลอด และได้ขับรถออกมาครึ่งคันแล้วแต่แท็กซี่คันก่อเหตุไม่ยอมให้ทางบีบแตรใส่ ตนจึงถอยรถกลับมาอยู่เลนเดิม จากนั้นก็ขับรถผ่านแยกและเข้าเลนซ้าย มาตามปกติ

untitled2

ต่อมาระหว่างที่ขับอยู่นั้นตนได้ขับหลบรถเมล์ไปเลนขวา และหักกลับมาเลนซ้ายอีกครั้ง ซึ่งอยู่ด้านหน้ารถคู่กรณี อาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ คิดว่าตนตั้งใจจะขับรถตัดหน้า จึงหยุดรถ เพื่อที่จะลงไปคุย ขณะที่กำลังจะลงจากรถนั้น มองผ่านกระจกไปเห็นว่าคู่กรณีกำลังไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากท้ายรถ ตนจึงรีบลงไป และบอกให้ใจเย็นๆ ก่อนที่คู่กรณีจะกระหน่ำตีมาที่ตนหลายครั้ง แม้แฟนของตนจะยกมือไหว้ขอร้องแต่คู่กรณีก็ไม่ฟัง จนมีพลเมืองดีมาช่วยและนำส่ง รพ.กรุงเทพ ทั้งนี้ จากการตรวจร่างกายได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าซ้ายแตกที่รอยฟกชำตามร่างกาย

 








Advertisement

ด้านนายบวรพันท์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มฎ8613 กรุงเทพมหานคร จะไปส่งผู้โดยสารย่านประตูน้ำ โดยขับบนถนนเพชรบุรีขาออก จากแยกพร้อมพงศ์ มุ่งหน้าแยกศูนย์วิจัย ซึ่งขณะนั้นพบรถมินิสีแดงคู่กรณีขับมาอยู่เลนกลาง และเปิดไฟขอทางเพื่อที่จะออกเลนซ้าย แต่ตนเห็นว่าระยะค่อนข้างกระชั้นชิด ตนจึงไม่ให้แทรกเข้า และขับเลยมาจากแยกศูนย์วิจัย ก็พบรถมินิคู่กรณีขับตามมา พร้อมกับเปิดไฟกระพริบ ตอนนั้นคิดว่ารู้ฝั่งคู่กรณีเริ่มไม่พอใจ และพยายามขับเข้าเลนขวา และหักออกซ้ายเหมือนต้องการให้รถตนชนท้าย อยู่ 2-3 ครั้ง

จากนั้นคู่กรณีจึงลงจอดรถแล้วลงมา เดินตรงปรีมาหาตน ตนคิดว่าต้องมีเรื่องแล้วแน่ๆ เลยลงจากรถและไปหยิบเหล็กแป๊ปยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งใช้สำหรับซ่อมรถออกจากกระโปรงท้าย เนื่องจากคู่กรณีเป็นวัยรุ่น ร่างกายกำยำ น่าจะแรงเยอะ ถ้าโดนทำร้ายร่างกายคงสู่ไม่ไหว จึงใช้เหล็กแป๊ปตีไปที่คู่กรณีหลายครั้ง จากนั้นได้ชุลมุนกัน คู่กรณีพยายามกดหัวตนลงและแย่งเหล็กแป๊ปไป แต่ตนแข็งแรงกว่าจึงผลักออกและกระหน่ำตีอีกหลายครั้ง แม้คู่กรณีจะยกมือไหว้ แต่ตอนนั้นตนยอมรับว่าโมโหมาก เลยลงมือตีไปหลายครั้ง

ทั้งนี้ เหล็กแป๊ปนั้นพกติดรถไว้เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ซ่อมรถ งัดยางรถ งัดแม่แรง และใช้ป้องกันตัวหากเจอคนร้าย หรือช่วยเหลือคนอื่นหากเกิดเหตุร้าย แต่หลังจากนี้คงไม่พกติดรถอีกแล้ว อยากให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ ว่าหากเกิดเหตุบนท้องถนนให้ใจเย็นให้อภัยกัน และให้ใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหา

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า อยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนการตอบโต้กันไปมา เหมือนกับการสาดโคลน หรือสาดน้ำใส่กัน มันก็ต้องเปียกทั้งคู่ ก็อยากให้ทุกฝ่ายใช้สติ และให้อภัยซึ่งกันและกัน และขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนทุกคนว่า หากพบเจอกรณีดังกล่าวให้ใช้สติในการประมวล เพราะเราทุกคนคืนคนไทย ควรจะรักกันไว้ดีที่สุด และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากให้ใช้กฎหมายแทนที่จะใช้อารมณ์คลี่คลายปัญหา หากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธก็อาจจะเกิดความสูญเสียตามมา ก็อยากขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอภัยให้กัน

เบื้องต้นได้แจ้งขอหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 1 ปี แก่นายบวรพันท์ ส่วนจะประกันตัวหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของพนักงานสอบสวนเพราะต้องดูพฤติการณ์ในหลายๆ ด้าน ต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน