เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 9 ธ.ค. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเฉลิมพล สิริแสง หรือ “เจี๊ยบ วาเลนไทน์” อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ 3 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี และนายสิทธิฤทธิ์ เสวกราชสวัสดิ์ หรือ “กอล์ฟ เมืองนนท์” อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 ต.บางคูวัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาหมายจับศาล จ.ฉะเชิงเทรา ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชน, ทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย
โดยผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับพร้อมอาวุธปืนขนาด .380 ซุปเปอร์ พร้อมกระสุน 5 นัด รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ซิลิก้า สีเทา-ดำ ทะเบียน ภว 5050 กรุงเทพมหานคร ยาบ้า 2,490 เม็ด, ยาไอซ์ น้ำหนัก 158.91 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ เครื่องชั่งดิจิตอล และบัตรอีซี่พาส โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 69/38 หมู่บ้านกลางซอยวิลเลจ โครงการ 3 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.สุทิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา นายเฉลิมพลเกิดเรื่องทะเลาะกับแฟนสาวที่นั่งรถมาด้วยกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ก็มีพลเมืองดีซึ่งเห็นเหตุการณ์พยายามเข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกนายเฉลิมพลใช้ปืนกราดยิงใส่ จนกระสุนไปถูกรถยนต์ของผู้อื่นได้รับความเสียหายไป 2 คัน เหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อบนจุดพักรถทางด่วนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-พัทยา ขาออก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนีไป ตนจึงมอบหมายให้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ลงพื้นที่เร่งสืบสวนติดตามคนร้าย โดยพบหลักฐานจากภาพวงจรปิด ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และขออนุมัติศาลออกหมายจับ และตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งรถยนต์ของผู้ต้องหาก็พบว่ามีการทำสีใหม่จากสีเขียวเป็นสีเทา-ดำ เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจับกุม
จากการสอบสวน นายเฉลิมพล ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเดินทางมาพร้อมกับแฟนสาว และนายสิทธิฤทธิ์ ขณะจอดพักรถมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาว เรื่องโอนเงินให้กับน้องชายจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ก็มีผู้เสียหายเดินเข้ามาห้าม และยังต่อว่าตนเรื่องทำร้ายผู้หญิง ซึ่งตนยังเห็นเขาก็มีอาวุธปืนมาขู่ตนด้วย ก็เลยเกิดการท้าทายกันขึ้น ก็เลยชักปืนที่พกมายิงสวนไปแค่นัดเดียวเท่านั้น ไม่ได้กราดยิงอย่างที่เป็นข่าว สำหรับยาเสพติดที่พบนั้น ตนยอมรับว่าเพิ่งจะไปรับยาเสพติดมาจากจุดนัดหมายแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปส่งต่อให้ลูกค้า บางส่วนก็แบ่งไว้เสพเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากยังขัดแย้งกับข้อเท็จจริง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ขยายผลการดำเนินคดีต่อไป
