ผอ.เขตคลองเตย เผยย้ายครูพละหื่นช่วยราชการแล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงคาดเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนชงเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการ
กรณีนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผอ.ฝ่ายสืบสวน องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ พาน.ส.ปุ้ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านคลองเตย พร้อมมารดา นำผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลตำรวจ เข้าพบ ร.ต.ท.หญิง จิดาภา จิตติมณี รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าเรือ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอ (นามสมมติ) ครูวิทยฐานะครูชำนาญการ สอนวิชาพละและวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนย่านคลองเตย โดยระบุว่าถูกครูเอข่มขืนภายในห้องลูกเสือ ชั้น 3 ของอาคารเรียน เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานั้น อ่านข่าว ช็อก! ครูหื่นข่มขืน-อนาจาร เลียหู-จับหน้าอก ดญ.คาห้องเรียน เหยื่อพุ่ง 24 คน
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. นางอัจฉราวดี ชัยสุวิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตคลองเตย กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งมีคำสั่งให้นายเอ ครูวิทยฐานะครูชำนาญการ สอนวิชาพละและวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนดังกล่าว ไปช่วยราชการ ฝ่ายศึกษา สำนักงานเขตคลองเตย เมื่อต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา โดยวันนี้คณะกรรมการตรวจข้อเท็จจริงไปที่สถานีตำรวจ เพื่อขอคัดลอกสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา โดยผลการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้
ผอ.เขตคลองเตย กล่าวต่อว่า เมื่อทำผิดต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน และจะไม่มีการปกป้องคนประเภทนี้ ซึ่งกทม.ไม่อยากได้คนประเภทนี้มาสอนนักเรียน อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปข้อเท็จจริงว่าพบผิด เขตคลองเตย จะทำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ากองวินัย กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรของกรุงเทพมหานคร (สำนักงานก.ก.) ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของระบบราชการ เมื่อสำนักงาน ก.ก. มีมติเห็นชอบตามที่เสนอแล้ว เขตคลองเตยจึงจะสามารถทำหนังสือไล่ออกจากราชการได้
