ครอบครัวร่ำไห้เผาแล้วเชอรี่ไฮโซเหยื่อไม้เบสบอลนายโก้ ชาวชุมชนริมคลองร่วมอาลัยเผยเชอรี่เป็นคนดี คอยช่วยเหลือตอนจัดระเบียบบ้านรุกล้ำคลอง ขอให้ไปสู่สุขคติ จี้ตร.จับคนร้ายให้ได้ใน 7 วัน ตร.ออกหมายเรียกน้องชายนายโก้ให้มาพบภายใน 12 ส.ค.ไม่มาเจอหมายจับช่วยคนร้ายหนี

จากกรณีน.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัทมหาเกียรติ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ ถูกคนร้ายลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในพื้นที่สน.โชคชัย ก่อนทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี คนสนิท ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งขณะนี้ยังคงหลบหนีโดยเชื่อว่าไปยังประเทศกัมพูชา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว อายัดบัญชีโก้พบถอน-โอนเงินสด ตร.ล่ากระชั้นปิดตายชายแดน เชื่อไม่นานได้ตัว

ชาวชุมชนร่วมอาลัย

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่วัดบางบัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ร่วมกันจัดเตรียมพิธีงานฌาปนกิจศพน.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอร์รี่ โดยมีนายพิพัฒน์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 36 ปี น้องชาย บวชหน้าไฟให้ ซึ่งมีแขกเหรื่อผู้มีเกียรติ ต่างเดินทางเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด อ่านข่าว พ่อสุดเศร้าเตรียมเผา ‘ไฮโซเชอรี่’ เย็นนี้ ตร.ขอเวลา 7 วันล่าตัวโก้

ชุมชนริมคลองลาดพร้าวแสดงความเสียใจ

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านในชุมชนที่น.ส.ธิติมาให้คำปรึกษาการสร้างที่อยู่อาศัย มาแสดงความเสียใจ พร้อมกับถือป้ายเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา ผู้ต้องหา พร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

น.ส.เพลินพิศ สุรสิทธิ์ อายุ 46 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ในวันนี้ตนและตัวแทนของชาวบ้านในชุมชนริมคลองลาดพร้าว และชุมชนหลัง หลังตลาดสุพาพงษ์ เดินทางมาแสดงความเสียใจ หลังจากน.ส.ธิติมา เสียชีวิตลง โดยทั้ง 2 ชุมชนมีความผูกพันกับน.ส.ธิติมามาก เนื่องจากน.ส.ธิติมาเป็นที่ปรึกษาการสร้างที่อยู่อาศัยของสหกรณ์ ช่วยการจัดระเบียบสร้างบ้านรุกล้ำคลองลาดพร้าว โดยรับสร้างบ้านในชุมชน ซึ่งขณะนั้น บ้านของตนถูกรื้อบ้าน ก็ส่งคนมาให้ความช่วยเหลือ มาอำนวยความสะดวกให้

น.ส.เพลินพิศ กล่าวต่อว่า หลังจากที่น.ส.ธิติมาเสียชีวิตลงนั้น โครงการก็หยุดชะงัก ชาวบ้านในชุมชนจึงกลัวว่าโครงการจะล่าช้าและไม่ดำเนินการต่อ ตามที่น.ส.ธิติมาวางแผนไว้ ซึ่งหลังจากนี้ทางนายพิพัฒน์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 36 ปี น้องชาย จะมาดูโครงการต่อ และจะสานต่อเจตนารมณ์ของน.ส.ธิติมาให้สำเร็จลุล่วง

“ดิฉันเคยเห็นนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา มาแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งมาพร้อมกับน.ส.ธิติมา และน.ส.ธิติมาก็แนะนำให้ชาวบ้านรู้จักว่า เป็นหุ้นส่วนที่จะมาร่วมงานกับน.ส.ธิติมา ซึ่งขณะนั้นทางชาวบ้านในชุมชนก็ไม่เคยได้พูดคุยกับนายอัศยามากนัก เนื่องจากนายอัศยาดูหยิ่ง และไม่เป็นมิตร ซึ่งแตกต่างจากน.ส.ธิติมามาก เมื่อชาวทราบว่านายอัศยาเป็นคนฆ่าน.ส.ธิติมา

วันนี้จึงเดินทางมาแสดงความเสียใจ นอกจากนี้ ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย จะจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ภายใน 7 วัน ชาวบ้านก็จะรอคอย และหากไม่สามารถจับคนร้ายได้ ดิฉันและชาวบ้านจากหลายชุมชน จะรวมตัวกันเดินไปที่สน.โชคชัย เพื่อติดตามผลของคดีอยากบอกกับน.ส.ธิติมาว่า ขอให้ไปสู่สุขคติ และขอให้เจตนาสุดท้ายสำเร็จโดยเร็ว” น.ส.เพลินพิศ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย กล่าวว่า ขณะนี้ออกหมายเรียกนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชายคนร้ายตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ให้มาพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 12 ส.ค.

หากยังไม่เข้ามาพบจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากยังไม่เข้ามาพบอีก ก็จะออกหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ข้อหา “ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน