3วัยรุ่นขับ ฟอร์จูนเนอร์ เสียหลักพุ่งชนพ่อเฒ่าปั่นจักรยาน ร่างกระเด็นอัดร้านขายอุปกรณ์เกษตรเสียชีวิตคากองบันไดไม้ไผ่ ก่อนรถจะพุ่งชนเสาไฟฟ้าและชนอัดติดกับกำแพงปูนพังยับ เจ็บ 3ราย ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาเบื้องต้น พร้อมคุมตัวตรวจแอลกอฮอร์ หลังผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุได้กลิ่นแอลกอฮอร์คลุ้งในรถ หากพบเมาขับเตรียมแจ้งข้อหา

ฟอร์จูนเนอร์ / เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.อ.สุภณ ตรงบรรทัด รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าตัดกระแสไฟ หวั่นเกิดอันตรายกับประชาชน

ที่เกิดเหตุอยู่ถนนคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษม บนฟุตบาทพบ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียนป้ายแดง ภ4195 กรุงเทพฯ สภาพชนอัดกับเสาไฟฟ้า จนด้านหน้ารถพังยับเยินเสาไฟฟ้าขาดเป็น 2 ท่อน ใกล้กันพบศพนายนายวันช้ย สดศฤงฆาร อายุ 67 ปี สภาพศพสวมชุดปั่นจักรยานสีขาว นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด อยู่บนกองบันไดไม้ไผ่ มีบาดแผลฉกรรจ์ กระดูกหักทั้งร่างกาย

สภาพบริเวณหน้าร้านขายอุปกรณ์เกษตร หลังจากถูกฟอร์จูนเนอร์ชน

ห่างกัน 5 เมตร พบรถจักรยาน 2 ล้อ แบบเสือภูเขา สีดำ ยี่ห้อ XDS จอดล้มอยู่ บริเวณที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่สูง 12 เมตร ล้มเอียง 8 ต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นถนน เพื่อให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดกระแสไฟ เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับประชาชนที่ใช้รถสัญจรไปมา

ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยทั้ง 3 ราย คือ 1.นายจารุกิตต์ สุทธิวงศ์วณิช อายุ 25 ปี คนขับ 2.นายวีรวุฒิ สินกระอาจ อายุ 25 ปี และ 3.นายศรายุทธ แซ่อึ้ง อายุ 25 ปี ทั้ง 3 ราย ซึ่งบาดเจ็บจากการกระแทกจากถุงลมนิรภัย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ บางแค เพื่อทำการรักษา ก่อนพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำและแจ้งข้อหากับคนขับเพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยก่อนที่ทั้ง3 คนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ได้เข้าไปไหว้ขอขมาศพนายวันชัย ผู้เสียชีวิตด้วย

หน้าร้านขายอุปกรณ์เกษตร

จากการสอบสวนนายมงคล สารกิจ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร ซึ่งอยู่ริมถนนติดกับที่เกิดเหตุ ให้การว่า ตนกำลังเปิดร้านได้ยินเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้ส่งเสียงเห่าอยู่หน้าร้าน จึงเดินออกมาดูยังไม่ทันถึงหน้าร้าน เห็นรถคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วชนกับข้าวของที่วางอยู่หน้าร้านพร้อมกับพุ่งชนลูกค้าที่ยืนอยู่บริเวณหน้าร้านร่างกระเด็นลอยไปตกที่กองบันไดไม้ไผ่

นายมงคล กล่าวต่อว่า ก่อนรถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าที่อยู่ใกล้เคียง จนเสาหัก และดึงให้เสาไฟล้มไปตามๆกัน ส่วนรถคันดังกล่าวไปจอดชนรั้วกำแพงปูนข้างร้านของตน หลังจากนั้น ตนจึงวิ่งไปดูคนที่ถูกชน พบว่านอนเสียชีวิตแน่นิ่งไปแล้ว และเดินไปดูที่รถฟอร์จูนเนอร์ พบว่ามีชายวัยรุ่นอยู่ในรถ 3 คน โดยในรถคล้ายมีกลิ่นสุราเต็มไปหมด ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

จักรยานของพ่อเฒ่า

ต่อมาน.ส.อุมา ตันติวิกูลกิจ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ด้วยความโศกเศร้า เปิดเผยว่า ตนกับสามีอยู่กินกันมาหลายสิบปี หลังจากสามีเกษียณจากงานธนาคารในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ก็ได้มาออกกำลังกายปั่นจักรยานยามว่าง โดยทำอย่างนี้มาทุกเช้าเป็นเวลา 4 ปีแล้ว

น.ส.อุมา กล่าวต่อว่า โดยจะปั่นจากบ้านพักที่ซ.จรัญสนิทวงศ์ 37 ลัดเลาะมาตามถนนพระเทพ-ตัดใหม่ โดยวันนี้ก่อนสามีออกจากบ้าน เค้าบอกว่าจะไปปั่นจักรยานและจะไปแวะซื้อกระป๋องฝักบัวรดน้ำต้นไม้ ตรงบริเวณถนนกาญจนภิเษก โดยไม่ได้มีลางสังหรณ์บอกเหตุอะไรเลย ตนไม่เคยคิดว่าสามีจะมาเสียชีวิตแบบนี้

สภาพหลังจากพุ่งชนพ่อเฒ่า และเสียหลักมาชนอัดกำแพงปูนของร้าน

ด้าน ร.ต.อ.สุภณ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานบุคคคลที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายนายจารุกิตต์ คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ไว้ 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทจนเป็นเกตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ 2.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินอันเป็นของหลวงหรือของสาธารณะเสียหาย

3วัยรุ่นขับฟอร์จูนเนอร์กราบขอขมาศพ

ร.ต.อ.สุภณ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องผู้ต้องหาจะเมาหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถ้าผลออกมาว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนประเด็นทรัพย์สินของการไฟฟ้าเสียหายนั้น ผู้ต้องหาจะต้องชดใช้ทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน