โจ๋แช็ตลวงเด็กสาววัย 15 ขังในบ้าน 4 วัน ตร.แกะรอยบุกช่วย
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่สน.พหลโยธิน ร.ต.ท.จักรกฤช สุวรรวงศ์ รองสว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุคนหายจากน.ส.รุจิรา อายุ 32 ปี มารดา หลังเข้าแจ้งความลูกสาวอายุ 15 ปี หายออกจากบ้านย่านลาดพร้าว หลังขอไปทำรายงานบ้านเพื่อนจากป้าตั้งแต่ 10:00 น. วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลให้ตามหาตัวเด็กหายเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย
พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ได้สั่งการพ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. พร้อมด้วยพ.ต.ต.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. และเจ้าหน้าที่ตำรวยชป.2 กก.ดส. ออกติดตามหาเด็กหญิงอายุ 15 ปี กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจกก.ดส. ได้ติดตามค้นหากระทั่งพบตัวเด็กหญิงอายุ 15 ปี อยู่กับนายกรกฎ คำพิพัฒน์ อายุ 19 ปี ภายในบ้านพักย่านลาดพร้าว กทม. เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือ พร้อมแจ้งข้อหาแก่นายกรกฎ ฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค. น.ส.รุจิรา แม่ของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ได้แจ้งความต่อตำรวจ สน.พหลโยธิน ว่าลูกสาวได้หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ คาดว่าอาจถูกผู้ชายที่รู้จักกันทางแอฟพลิเคชั่นบีโกไลฟ์ล่อลวงไป ตำรวจกก.ดส.จึงระดมกำลังสืบสวนติดตามจบพบตัวเด็กหญิงคนนี้ และผู้ต้องหาในบ้านพักย่านลาดพร้าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รู้จักกับผู้เสียหายทางแอพพลิเคชั่นบีโกว์ไลฟ์มาประมาณ 2 อาทิตย์ จึงนัดพบกันที่ปากซอยลาดพร้าว 41 และได้พาผู้เสียหายมาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ จึงกางเต็นท์ใช้เป็นพี่หลับนอน ก่อนถูกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน.ส.รุจิรา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้มาขอตนออกไปซื้อของทำรายงานที่ห้างย่านลาดพร้าว จากนั้นพอออกจากบ้านไปก็ไม่ยอมกลับบ้าน ได้แจ้งความจนกระทั่งตำรวจติดตามตัวพบเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา สอบถามทราบว่า ผู้ชายที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นคนขับรถมารับลูกสาวไปจากหน้าปากซอยบ้านภายในซอยลาดพร้าว 71 จากนั้นบอกว่าจะพาไปซื้อของทำรายงาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พาไปและพามาที่บ้านหลังดังกล่าว โดยลูกสาวกลัวมาก เนื่องจากเกรงจะถูกทำร้าย
กระทั่งลูกสาวแอบโทรหาตนและบอกว่าจะกลับมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ก่อนที่ตำรวจจะมาพบแล้วจับกุมคนที่ก่อเหตุล่อลวงพาลูกสาวได้ก่อน จากการสอบถามข้อมูลทราบว่า ผู้ชายที่ก่อเหตุดังกล่าวเคยกระทำลักษณะแบบนี้มาหลายครั้ง จึงแจ้งความดำเนินคดีให้ตัวผู้ก่อเหตุได้ชดใช้ความผิดของตัวเองและเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดกับลูกสาวคนอื่นอีก ซึ่งตนเป็นห่วงลูกสาวมาก โชคดีที่ตำรวจติดตามตัวจนพบ อยากฝากเตือนให้ผู้ปกครองสังเกตพฤติกรรมของลูกในการใช้โทรศัพท์ ทำความเข้าใจลูกให้ดีให้ความใส่ใจทั้งความเป็นพ่อแม่และเพื่อน อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกคนอื่นอีกต่อไป
ด้านพ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอยากฝากเตือนเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ว่ากรณีที่เด็กมีการแช็ตคุยกันผ่านแอพพลิเคชั่นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ปกครองต้องใส่ใจ อย่างไรก็ตาม สภาวะสังคมมีปัญหาเกี่ยวกับเด็กเกิดขึ้น เด็กอาจจะไม่เข้มแข็งพอ เพราะยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจจะทำให้ผลเสียเกิดขึ้นได้ หากเด็กถูกกระทำชำเรา อาจจะส่งผลทำให้เกิดการทำแท้ง เป็นปัญหาสังคมได้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นจุดเล็กๆ ที่อาจจะทำให้เป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาในสังคมได้
