ชาวบ้านท้ายเขื่อนแก่งกระจานเริ่มท้อ น้ำแรงซัดรีสอร์ตพัง หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่

จากสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ที่มีประมาณน้ำมากเกินความจุอ่าง ส่งผลให้มีน้ำล้นสปิลเวย์และไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีเชี่ยวกราก ทำให้บ้านเรือนประชาชนและสถานประกอบการรีสอร์ตต่างๆ ที่อยู่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบอย่างหนัก

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ อิงน้ำรีสอร์ท หมู่ 1 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ท้ายเขื่อน อยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี มีมวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 3 เมตร ส่งผลให้ทรัพย์สินพังได้รับความเสียหาย ซึ่งในบางจุดแรงน้ำได้ไหลพัดบ้านถล่มลงไปในน้ำ ชาวบ้านเริ่มอพยพหนีน้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

คลิปบันทึกเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 19 ส.ค.

นายทองใบ คลายเพชร อายุ 78 ปี เจ้าของรีสอร์ตย่านทานน้ำเพชร กล่าวว่า หลังทราบว่าปริมาณน้ำบริเวณสปิลเวย์สูงขึ้น ก็เริ่มทะยอยขนของจากรีสอร์ทออกแล้ว จากนั้นเห็นว่าปริมาณน้ำสปิลเวย์ล้น น้ำเริ่มท่วมเข้ามาบริเวณจุดที่ตนอยู่ ก็ได้มีการเตรียมรับมือไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อช่วงประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้ทราบว่ามีมวลน้ำมหาศาลที่ไหลมาจากสปิลเวย์ได้ไหลทะลักเข้าท่วม ทำให้กระแสน้ำตัดผ่านถนนซึ่งเป็นถนนที่ใช้สัญจรไปมา จนกลายเป็นทางน้ำหลาก บ้านเรือนบางหลัง ถูกน้ำเซาะ กิ่งไม้พลัดมา ทำให้บ้านเรือนเสียหาย

“เหตุการณ์ที่เห็น ตกใจมาก นึกถึงเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของชาวเพชรบุรีมาแล้ว แต่ครั้งนี้น้ำมาเร็วและแรงกว่าเดิม จึงรู้สึกกังวลใจมาก กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย โดยรีสอร์ตของลุง เตรียมการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมโดยการนำท่อนไม้ขนาดใหญ่ มาดามไว้กับเสาของบ้านและรีสอร์ต เพื่อป้องกันไม่ให้เสาล้ม”นายทองใบ กล่าว

นายทองใบ กล่าวต่อว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา ฝนก็ยังคงตกอยู่ ลูกชายของตนยังไม่ยอมออกจากรีสอร์ต แม้กระทั่งขณะนี้ชาวบ้านฝั่ง ทานน้ำเพชรจะถูกตัดน้ำตัดไฟแล้วก็ตาม ก็ยังคงเป็นห่วงบ้านเรือนอยู่ ตนจึงต้องข้ามฝั่งมาดูปริมาณน้ำ ซึ่งตนจะต้อง ใช้เส้นทางอ้อมเพื่อที่จะเดินทางมาดูปริมาณน้ำ และซื้อข้าวกล่องเข้าไปให้ลูกชายทาน โดยปริมาณน้ำฝั่ง ทานน้ำเพชรอยู่ระดับอก ซึ่งตนเห็นว่ายังพอสามารถเดินทางได้ แต่ดูจากการประเมินสถานการณ์น้ำในวันนี้ ตนเห็นว่าปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ประกอบกับฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง ตนอาจจะต้องเริ่มทยอยขนของที่จำเป็นออกจากบ้านและรีสอร์ต

“ ปริมาณน้ำขึ้นทุกวันแล้วรู้สึกท้อมาก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจาก เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งถือว่า วิกฤติแล้วของชาวเพรชบุรี ตนได้แต่หวังว่าปริมาณน้ำจะไม่ซัดมา ทำให้บ้านเรือนของประชาชนเสียหาย จนไม่มีที่อยู่ “ นายทองใบ กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณ สปิลเวย์ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พบว่า ปริมาณน้ำยังคงไหลเชี่ยวกรากอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ได้เริ่มทยอยขนเครื่องสูบน้ำ และ อุปกรณ์สูบน้ำออกจากพื้นที่ เนื่องจาก ปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำงานได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน