เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 18ธ.ค. ที่สน.โชคชัย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย แถลงจับกุมนายวิชชกร กุลพรนิภา อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1726 /2559 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายๆ โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น และข่มขืนจิตใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ
อ่านข่าว พริตตี้แจ้งจับเพื่อนชายบุกฉุด! ทำร้ายตาปูด-ส่งเฟซบุ๊กขู่
พล.ต.ต.นันทชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่น.ส.ทิพย์ หรือน้องทิฟฟี่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี พริตตี้สาวที่โพสต์แฉเพื่อนผู้ชายลวงจะขืนใจและทำร้ายจนบาดเจ็บ และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.โชคชัยไว้ว่า ถูกนายวิชชกร เพื่อนรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรัชดา พยายามจะข่มขืนและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เวลาประมาณ 22.30 น. ในบ้านพักของนายวิชัชกรที่อยู่ภายใน ซ.ลาดพร้าว-วังหิน 70 ถ.ลาดพร้าววังหิน แขวงและเขตลาดพร้าวหลังจากที่ได้ไปรับประทานอาหารกัน โดยมีการดื่มแอลกอฮอล์ไปบ้าง หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ นายวิชชกร อาสาจะไปส่งบ้านแต่กลับพาไปที่บ้านตนเองแล้วก่อเหตุขึ้น
พลต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า หลังรับแจ้งเหตุได้พาผู้เสียหายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ติดตามจับตัวให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนขอหมายจับและติดตามจับตัวไว้ได้เมื่อตอนสายของวันนี้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา และผู้ต้องหาก็ให้การรับสารถาพว่าได้ก่อเหตุจริง
นายวิชชกรเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับน.ส.ทิพย์มาประมาณ 2 เดือน ได้ตามจีบอยู่ ส่วนที่ก่อเหตุขึ้นเพราะ น.สทิพย์บอกว่าคุยอยู่กับตนเองคนเดียว แต่น.ส.ทิพย์ไปบอกกับเพื่อนว่าคุยอยู่กับคนอื่นด้วย ประกอบกับที่ตนเองมีอาการมึนเมาด้วยจึงได้ก่อเหตุขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายรายแล้วใช่หรือไม่ นายวิชชกรกล่าวว่า ไม่เคย แต่มีอยู่กรณีเดียวในท้องที่ สน.พหลโยธิน แต่เป็นการป้องกันตัว เพราะตนเองมีเรื่องกับผู้ชาย แต่เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงเข้ามาห้ามตนแทงมั่วไป โดนผู้หญิง ตนไม่ได้ตั้งใจแทงผู้หญิง ส่วนในคดีอื่นๆตนเองไม่รู้เรื่อง และขอโทษที่ได้ก่อเหตุขึ้น อยากบอกว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ ส่วนที่มีการพูดถึงว่าตนเองข่มขู่ทางเฟซบุ๊ก นั้น ตนเองไม่รู้เรื่องตนเองได้ปิดเฟซบุ๊กไปนานแล้ว
ด้านน.ส.ทิพย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นแค่เพียงรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ไม่ได้เป็นแฟนกัน อยากจะให้เรื่องของตนเองเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงทุกเพศทุกวัย อย่าไว้ใจคนไกล้ตัวที่เราคิดว่าเป็นพี่เป็นน้อง บางทีคนใกล้ตัวอาจจะอันตรายกว่าคนข้างนอกที่เราไม่รู้จักก็ได้ และได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้
หลังจากนั้นน.สทิพย์ได้มาชี้ตัวนายวิชชกร ด้วยความโมโหจงได้ชกไปทีใบหน้าของนายวิชชกร 1 ครั้งจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้ามากันตัวออกไปสงบสติอารมณ์ และได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเปรียบเทียบปรับไป 100 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายวิชชกร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ พบว่ามีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายผู้หญิงหลายคดี เช่น วันที่ 9 มี.ค. 2559 ทำร้ายร่างกายนางสาวภัสสร (ขอสงวนนามสกุล) ได้รับบาดเจ็บ พื้นที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งขณะนี้ ทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ประสานไปยังผู้กำกับ สน.พหลโยธิน ขอให้รับเป็นคดีอาญา ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วน คดีที่ 2 เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2559 ในพื้นที่ สน.พหลโยธินเช่นกัน นายวิชชกร ได้ก่อคดีใช้มีดแทงหญิงสาวเจ้าของร้าน จำนวน 3 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู คดีนี้ คดีนี้นายวิชชกรได้ประกันตัวออกไปต่อสู้คดี
