ผัวเมียโจรอุ้มหมา สารภาพสิ้น ลูกโตเลยอุ้มหมาแทน พบของกลาง 10 ล้าน!

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 ส.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ปทุมธานี

อ่าน จับได้แล้ว 2ผัวเมีย”โจรอุ้มหมา” หลังลักทรัพย์กว่า 15 ปี กวาดไปกว่า 20 ล้าน

ได้ร่วมกันจับกุม นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และ น.ส.อุษา เกษมณี หรือ ฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค.2561

ในข้อหาร่วมกัน ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด หลังเจ้าทุกข์แห่แจ้งความ จากการตรวจสอบประวัติพบทั้งคู่เคยก่อเหตุมาแล้ว่า กว่า 15 ปี ได้ทรัพย์สินไปไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 52 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ พร้อมของกลางโดยรถยนต์ 4 คัน กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เเว่นตา พระเครื่อง และทรัพย์สินอีกจำนวนมาก มูลค่ารวมกันกว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ตำรวจติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 52 เขตบางเขน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในหลายพื้นที่ โดยในช่วงแรกจะใช้วิธีการอุ้มลูกไปในร้านขายของต่างๆ เบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน

ต่อมาเมื่อลูกโตขึ้น ก็เปลี่ยนวิธีมาใช้สุนัขในการก่อเหตุแทน โดยก่อนหน้านี้ใช้สุนัขในการก่อเหตุมาแล้วหลายตัว โดยจะใช้วิธีการแบบเดียวกันกับการอุ้มลูก ให้สุนัขวิ่งเล่นภายในร้านเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ บางครั้งก็จะใช้วิธีการสั่งซื้อสินค้าคราวละมากๆ เพื่อให้ผู้เสียหายสนใจและวุ่นวายกับการจัดของก่อนจะ

อาศัยจังหวะผู้เสียหายเผลอ ขโมยทรัพย์สิน ก่อเหตุเฉลี่ย 10 ครั้งใน 1 เดือน ทำมานานกว่า 15 ปี ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็จะนำไปจำนำหรือขาย ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อเหตุมาหลายท้องที่ ทั้ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภาค 2 ภาค 7 และนครบาล

ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข กล่าวว่าผู้ต้องหาจะใช้ใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลอื่นที่หน้าตาคล้ายกัน และใช้ชื่อของบุคคลอื่น ในการแสดงตัวทุกครั้งที่ถูกตำรวจเรียกตรวจ ซึ่งต้่องตรวจสอบว่าใช่บัตรจริงหรือปลอม อีกทั้งยังย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ อาทิ รถยนต์บ้านและห้องเช่าก็จะใช้ชื่อของบุคคลอื่นทั้งหมด

เบื้องต้น ตำรวจจะตรวจสอบว่าคนร้ายได้นำทรัพย์สินที่ได้มากกว่า 10 ล้านบาทไปใช้เก็บไว้ที่ใด โดยจะใช้กฎหมายการฟอกเงินเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาก่อนนำมาคืนให้กับผู้เสียหาย ขณะนี้สามารถออกหมายจับได้แล้วรวม 17 หมาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบญาติที่พาผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนลูกสาวและสุนัขของผู้ต้องหาที่ถูกนำไปใช้ตระเวนก่อเหตุนั้นใน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยังไม่ดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายอภิชาติ บุญเรืองและนางสาวอุษา เกษมณีหรือฑิญาตา บุญเรือง ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มหมาอุ้มเด็กไปสอบสวนภายในอาคารกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีผู้เสียหายหลายราย พยามวิ่งเข้ามารุมทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวทั้งสองเข้ามายังภายในอาคาร เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ขณะที่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน