ตร.ประสาน จิสด้า ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ช่วยไขคดี ขโมยดินอุโมงค์รฟม. ขนไป ถมที่เอกชน ยันสอบพบคดีมีมูล รองผบช.น.เรียกประชุม แจงผลสอบ 2 ตร.
ตร.ประชุมความคืบหน้าคดี ขโมยดินอุโมงค์รฟม.
จากกรณีพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ตั้งคณะกรรมการ สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการขุดเจาะดินและบรรทุกขนดิน ที่ได้จากการขุดก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดและรถไฟฟ้า บริเวณสี่แยกรัชโยธิน ไปเทไว้บริเวณริมทางรถไฟใต้ทางด่วนกำแพงเพชร 2 ที่ดินเอกชน รวมถึงบริเวณจุดที่ก่อสร้างหมู่บ้านเศรษฐศิริ พหลฯ-วัชรพล และมีการนำดินที่ได้จากการขุดดังกล่าวไปลักลอบจำหน่าย โดยพ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน ร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์นั้น
อ่านข่าว : รฟม.เต้น สั่งสอบข้อร้องเรียน ลักดินสร้างรถไฟฟ้า ขนถมที่เอกชน
ภาพหลักฐาน
ตร.สอบพบ ขโมยดินอุโมงค์รฟม. คดีมีมูล
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน ชุดสืบสวนบก.น.2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดความคืบหน้า กรณีดังกล่าวนานกว่า 3 ชั่วโมง
ขโมยดินอุโมงค์รฟม. / พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการเรียกติดตามความคืบหน้า ประชุมสรุปกรณีที่มีการขุดดิน ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร ไปถมที่ในพื้นที่เอกชน ปรากฏว่ามีมูลความจริง จึงได้เรียกสอบปากคำ พยานที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้ทางผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร สอบปากคำไว้แล้ว ส่วนทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างลาพักงาน
ตนได้มอบหมายให้ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ไปดำเนินการสอบปากคำ พร้อมกับเจ้าหน้าที่วิศวกรผู้รับเหมา ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ที่ สน.พหลโยธิน
ในประเด็นของจำนวนดิน ว่ามีปริมาณเท่าไหร่ เนื่องจากทางกรุงเทพมหานคร ยังไม่ได้รับเอกสารแสดงผลการตรวจสอบจำนวนดิน ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว และขนออกไปจากทางรฟม.
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตำรวจยศพ.ต.ท.และด.ต. เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขนดินนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า ทาง ด.ต. คนที่ถูกระบุอยู่ในสังกัด สน.วิภาวดี บก.จร. ได้ทำธุรกิจกับครอบครัวในการรับถมที่ แล้วได้มาเป็นเอาท์ซอร์ส (Outsource) รับขนดินของโครงการดังกล่าว
ส่วนกรณีพ.ต.ท. พบว่าสังกัดสน.พหลโยธิน รู้จักกับทางวิศวกร โครงการก่อสร้างดังกล่าว จึงได้หารถมาช่วยขน เนื่องจากต้องการจะเร่งงาน มีการติดต่อเรื่องรถมาขนให้ แต่ไปทิ้งที่ใดบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายสืบสวน
เบื้องต้นทราบว่ามีหน่วยงานประมาณ 10 หน่วยงานขอดินมา ตกประมาณ 170,000 ลูกบาศก์เมตร และมีการส่งให้แต่ละหน่วยงาน รวมแล้วประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตรเศษ
กรณีดังกล่าวจะต้องดำเนินการตรวจสอบจากเอกสาร แบบแปลนทางวิศวกรรมมีการขุดดินออกไปและดินทั้งหมดมีจำนวนเท่าไร่ โดยต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นเพื่อดำเนินการตรวจสอบจากทางรฟม.และผู้รับเหมา
ส่วนดินที่เหลือจากอุโมงค์ก่อสร้างยังไม่ทราบว่าเหลือเท่าไร่หรือทิ้งที่ไหนเพิ่มเติม เนื่องจากต้องรอการสอบปากคำจากทางเจ้าหน้าที่รฟม.อีกครั้ง
ทั้งนี้ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์ของหลวงแต่ปรากฏว่าไปอยู่ในพื้นที่เอกชนแสดงว่าต้องมีคนเอาไป มีลักษณะเหมือนกับร่วมกันลักทรัพย์ ถ้าไปเวลากลางคืนก็มีความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน”
“แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่รฟม.แล้ว ก็ต้องสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง ว่ามีปริมาณดินไปถมทั้งหมดมีเท่าไร่ เหลือแค่ไหน ซึ่งคำนวณไม่ยาก ตามพื้นที่กว้าง ยาว ลึก นอกจากนี้ยังได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมเป็นภาพถ่ายทางอากาศ จากสํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (gistda) ทั้งก่อนถมดิน หลังถมดินและระหว่างถมดิน ตามห้วงเวลา โดยจะดำเนินการโดยละเอียด เนื่องจากมีเอกสารและศัพท์ทางเทคนิคค่อนข้างเยอะ ต้องสอบปากคำผู้ชำนาญการที่มีความเชี่ยวชาญมีความรู้ ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ใดแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าจะต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน” รองผบช.น. กล่าว
