เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ร.ต.อ.ไพโรจน์ คล้ายสุวรรณ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถปิกอัพชนกับรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย บนถนนสายเลี่ยงเมืองพิษณุโลก–อุตรดิตถ์ (ฝั่งขาขึ้น) หน้าโครงการบ้านเอื้ออาทรบึงพระ หมู่ 7 บ้านพิกุลทอง ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ 2 ประตู สีบรอนซ์–เงิน ทะเบียน บย 6656 เชียงราย ชนกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ สีดำ–ส้ม ทะเบียน 1 กฌ 7235 พิษณุโลก ก่อนเสียหลักหมุนไปฟาดกับเสาไฟส่องสว่างริมทางจนหักครึ่ง สภาพรถเสียหายพังยับเยิน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราชไปก่อนหน้านี้

ตรวจสอบภายในซากรถยนต์ปิกอัพ เบาะข้างคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลเหวอหวะบริเวณลำคอเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดร่างออกมาอย่างทุลักทุเล ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ยังพบศพผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอีก 1 ราย ทราบชื่อ คือ ด.ญ.สิริกร ขำรักษ์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนวัดบึงพระ อยู่หมู่ 7 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก สภาพศพใส่ชุดนักเรียนนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน มีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์หลายแห่งตามร่างกาย

โดยมีนายวสันต์ ขำรักษ์ อายุ 51 ปี บิดา ที่เพิ่งทราบข่าวเดินทางมาดูศพบุตรสาว เมื่อเห็นร่างอันไร้วิญญาณถึงกับเข่าทรุดโผเข้ากอดศพร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ และกอดกระเป๋านักเรียนของบุตรสาวแนบกายไว้อยู่ตลอดเวลา เป็นภาพที่สะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

จากการสอบถาม นายวสันต์ ขำรักษ์ บิดาของ ด.ญ.สิริกร ผู้เสียชีวิต ทราบว่า บุตรสาวแต่งตัวขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเรียนหนังสือตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งมีชาวบ้านมาแจ้งว่า บุตรสาวถูกรถยนต์ปิกอัพชนหน้าหมู่บ้าน ตนจึงรีบออกไปดู ก็พบว่าบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนมีบุตรเพียงคนเดียวเป็นเด็กเรียนดี อีกทั้งยังเป็นนักฟุตบอลหญิงตัวแทนโรงเรียนด้วย ตนไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัวตัวเอง

จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าระหว่างที่ ด.ญ.สิริกร กำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากหมู่บ้าน มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งจอดบังอยู่ริมทางจึงไม่ทันสังเกตว่ามีรถยนต์ปิกอัพพุ่งลงมาจากสะพานสูงด้วยความเร็วสูง จึงไม่สามารถเบรกรถได้ทัน ทำให้เสียหลักพุ่งชนเข้าอย่างจัง ส่วนรถยนต์ปิกอัพเสียหลักหมุนเคว้งไปฟาดกับเสาไฟส่องสว่างริมทาง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้จะสอบปากคำคนขับเพิ่มเติม หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนคดีดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน