เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในการประชุมคสช.ก่อนที่จะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ โดยระหว่างการเดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 นั้น เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลรายงานสถานการณ์บริเวณประตู 4 ซึ่งมีนายเฉลิม สอนนนฐี ชายวัย 43 ปี ชาวจังหวัดน่าน ปืนขึ้นไปบนอาคารของธนาคารออมสิน ชูป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม และปาประทัดยักษ์หลายลูก เพื่อขอเข้าพบกับนายกรัฐมนตรี

จากนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการบุกเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ระบุว่าจะต้องรอคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าดำเนินการ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “คำสั่งอะไรล่ะ กฎหมายว่าอย่างไร ก็ว่าตามกฎหมาย”

ทั้งนี้ ในการประชุมคสช. คาดว่าจะหารือแผนอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรืออาจจะหารือถึงการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงอาจจะมีการออกมาตรา 44 เพื่อแก้ไขสถานการณ์บางอย่างของบ้านเมือง ในการบุกค้นวัดพระธรรมกายในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

ขณะที่ประชุมครม.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมเสนอให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เดินรถเตาปูน-บางซื่อ โดยรฟม. จะยอมอุดหนุนค่าโดยสาร 10 ปี กว่า 740 ล้านบาท หลังต่อรองค่าโดยสาร 38 สถานี ต้องไม่เกิน 42 บาท ในการเดินรถสายสีน้ำเงิน พร้อมกันนี้ เตรียมรับงานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี และต่ออายุสัมปทานสายสีน้ำเงินเดิม บางซื่อ-หัวลำโพง ไปสิ้นสุดเวลาเดียวกันในปี 2593

นอกจากนี้ เตรียมพิจารณาโรดแมปของคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ในคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือคปต.ส่วนหน้า ที่กำหนดจาก 7 กลุ่มงาน เป็น 3 แนวทาง คือ ความปลอดภัย การพัฒนา และ การสร้างความเข้าใจ โดยเร่งดำเนินงานตามโครงการที่มีอยู่ 89 โครงการ วงเงิน 1,700 ล้านบาท และอาจเพิ่มโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน