ศาลพิพากษา คดี รถตู้25ศพ สั่งบขส.-ลูกชายคนขับ จ่ายค่าเสียหาย 26 ล้าน!
ศาลพิพากษา รถตู้25ศพ / วันที่ 4 ต.ค. ศาลจังหวัดจันทบุรี ได้อ่านคำพิพากษา คดีผู้เสียชีวิตจากกรณี รถตู้โดยสาร สายกรุงเทพ-จันทบุรี เกิดอุบัติเหตุ ตกลงไปร่องน้ำกลางถนน พุ่งชนรถกระบะที่สวนทางมา จนทำให้รถเกิดความเสียหายไฟลุกท่วม เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 25 ราย เหตุเกิดที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2560
นายโสภณ หนูรัตน์ สภาทนายความคุ้มครองผู้บริโภค ทนายความฝ่ายโจทก์ ได้เปิดเผยคำพิพากษาของศาล ว่า ศาลพิพากษายกฟ้องบริษัทเจ้าของรถตู้ เนื่องจากนายสุมนต์ เอี่ยมสมบัติ คนขับที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายความผิด แต่ได้ให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และ ลูกชายของคนขับ เป็นผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 26 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
“การที่ศาลได้ยกฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนผู้จัดการ เพราะศาลมองว่าไม่ใช่นายจ้าง หรือเป็น ตัวตายตัวแทนของคนขับ แต่ในส่วนของบขส. เป็นหน่วยงานที่จัดทำสัญญาสัมปทานเกี่ยวกับรถตู้โดยสารจึงถือว่ามีความผิด รวมไปถึงลูกชายของคนจับรถตู้ ในฐานะที่เป็นทายาท ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายโจทก์ทั้งหมด”
อ่าน เผยนาทีไฟท่วมรถตู้ หลังชนปิกอัพสยองบ้านบึง ยอดตายพุ่ง 25 ศพ!! (คลิป-ภาพชุด)
นายโสภณ กล่าวอีกว่า การเยียวยา เหยื่อรถตู้ 25 ศพ ศาลชั้นต้นจันทบุรี พิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ทั้ง 14 รายที่เข้าชื่อยื่นฟ้อง โดยกำหนดเป็นค่าทำศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าขาดแรงงานในครัวเรือน และค่าเสียหายเชิงลงโทษ โจทก์บางคนจะได้รับค่าเสียหายต่อทรัพย์เป็นรายบุคคล ซึ่งจะมีการดำเนินการไต่สวนตรวจสอบไล่สำนวนที่ละคน มีการบวก-ลบ ตามอัตราสินไหมที่กำหนด แต่ที่น่ายินดีมีการจ่ายสินไหมให้แก่ผู้บริโภค เป็นค่าเสียหายนอกเหนือจากที่ทนายเรียกร้อง 5 แสนบาท
ญาติผู้เสียชีวิต
รายที่ได้รับมากที่สุด คือ นายพรหมพต หรือ น้องกันต์ กอศิริวรานนท์ นิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับจำนวน 8 ล้านบาท และลดหลั่นกันลงมา โดยส่วนมากจะได้ค่าทดแทนรายละ 5 แสนบาท แบ่งเป็นบิดา 5 แสนบาท มารดา 5 แสนบาท หากเหลือบิดารายเดียวก็ได้รับ 5 แสนบาท
อ่าน คอลัมน์ แฟ้มคดี : เปิดฉากเลือดปีใหม่ รถตู้มรณะ-25ศพ ปมเหตุหลับใน-ซิ่ง รบ.เต้น-สั่งล้อมคอก
นายโสภณ กล่าวต่อว่า จากนี้คงมีการยื่นอุทธรณ์ในคดี เพราะเชื่อว่า บริษัท บขส.คงไม่ยินยอมจ่ายเพียงเจ้าเดียว ต้องให้บริษัทรถตู้มีส่วนร่วมในการจ่ายค่าทดแทน อาจมีการยื่นฟ้องถึงศาลฎีกาเพราะเป็นคดีตัวอย่างที่ก่อประโยชน์กับผู้บริโภคและประชาชนส่วนมาก
ขณะที่ น.ส.ยุพดี หนุนเกื้อกุล น้องสาวน.ส.ศิริพร หนุนเกื้อกุล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่สาวตนเองเปรียบเหมือนแม่คนที่ 2 เนื่องจากมีอายุห่างกัน 1 รอบ และส่งเสียตนเองเรียนจนจบลการศึกษา และเป็นเสาหลักของครอบครับรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครับ แม่เพิ่งเสียชีวิตไม่ถึงสองเดือน พี่สาวที่เป็นเสาหลักต้องมีเสียชีวิตจากอุบัติรถตู้ พ่อเสียใจไม่พูดกับใคร ญาติกลัวพ่อเป็นโรคซึมเศร้าและอาจจะเสียพ่อไปอีกคน ตนจึงได้ลาออกจากงานมาดูแลบิดา
