รวบหนุ่มแสบอ้างซี้เน็ตไอดอล-พริตตี้ เปิดเพจปลอมยืมเงิน!
จับหนุ่มตุ๋น / เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ภพกฤต เปลี่ยนเพ็ง รองผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ต.เดโช ประสานศรี สว.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ธนันชัย รำเพยเพชร สว.สส.สน.สุทธิสาร ชุดสืบสวนสน.ทองหล่อ และชุดสืบสวนสน.สุทธิสาร
ร่วมกันจับกุมตัว นายธนาวินท์ คล้ายกุล อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.230/2560 ลงวันที่ 21 ก.พ.2560 ข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยจับกุมได้บริเวณกลางซอยทองหล่อ 10 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายธนาวินท์ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวจะเดินทางมายังบริเวณซอยทองหล่อ 10 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายธนาวินท์ ตรงตามรูปพรรณสัณฐานตามหมายจับจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ แล้วไม่เคยถูกจับกุมมาก่อนแต่อย่างใด จึงแจ้งสิทธิ์ก่อนควบตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการสอบสวนที่สน.สุทธิสาร ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอประกันตัว
ผู้เสียหายขอสงวนชื่อ นามสกุล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2559-2560 นายธนาวินท์ก่อเหตุใช้ช่องทางออนไลน์นำเจ้าของร้านขายเสื้อผ้า ขายอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ปลอมแปลงตั้งเพจในเฟซบุ๊ก เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์ปลอมขึ้นมา จนมีผู้เสียหายตั้งเพจติดตามหาธนาวินท์ คล้ายกุล ก่อนที่จะถูกปิดไปจากการโดนกดรีพอร์ต โดยมีผู้เสียหายประมาณ 200-300 ราย เข้ามาร่วมให้ข้อมูลกับทางผู้ก่อตั้งเพจดังกล่าว
จากการตรวจสอบของทางผู้เสียหายพบว่า ข้อมูลทางบัญชีของธนาวินท์ คล้ายกุล มียอดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 300,000-400,000 บาท ต่อเดือน ภายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยรวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ อยากให้ผู้เสียหายเช่นเดียวกัน เข้ามาที่สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีก่อเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วนพฤติการณ์จะใช้ช่องทางแอพพลิเคชั่น ตีสนิทเน็ตไอดอลแล้วเอาไปอ้างเพื่อขอยืมเงิน และแอบอ้างเอารูปเน็ตไอดอลหรือพริตตี้ 2-3 รายไปใช้หรือหน้าร้านค้าไปหลอกขายของ สูญเงินไปตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักร้อย
ภายหลังจากทางผู้เสียหายทยอยแจ้งความก็มีทางญาติของนายธนาวินท์ เข้ามาเคลียร์จะชดใช้ค่าเสียหายให้ภายหลัง ชดใช้เสร็จก็จะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ทางผู้เสียหายก็แอบติดตามความเคลื่อนไหวผู้ก่อเหตุหลังปิดไอจีและเฟซบุ๊กตั้งค่าส่วนตัวโชว์บ้าน อยู่กับเพื่อนที่กินดื่มเที่ยว ในสถานที่หรูหราหลังได้เงินไป
ทั้งนี้ ทางผู้เสียหายเชื่อว่าน่าจะมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง จึงอยากให้ตำรวจขยายผลเนื่องจากคนร้ายได้เงินมาแล้ว โอนออกบัญชีไปบุคคลอื่นตลอด เป็นไปได้ว่าน่าจะทำเป็นกลุ่มหรือมีการโยกเงินให้บุคคลอื่นถือแทน อยากให้ดำเนินคดีเอาผิดผู้สมรู้ร่วมคิด และอายัดเงินเหล่านั้นมาคืนผู้เสียหายทั้งหมดต่อไป
