จัด อรินทราช ล่า พันศักดิ์-ธนพร ผัวเมียมือปืนฆ่า เสี่ยปั๊มน้ำมัน สระแก้ว ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งทุกด่านตม.ตรวจเข้ม รวมถึงเส้นทางหมาลอด ขอตำรวจทุกนายใช้ความระมัดระวัง หากพบขัดขืน จับตาย ทันที

จากกรณีคนร้ายคลุมหัวปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืน .38 ออโตเมติก ประกบยิง นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมัน ศรีสุวรรณรุ่งเรือง เลขที่ 213/34 ม.40 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว เสียชีวิต ส่วน นางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยาถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตำรวจมุ่งประเด็นขัดผลประโยชน์และเรื่องส่วนตัว กระทั่งต่อมาตำรวจออกหมายจับ นายพันศักดิ์ หรือ พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจที่พัวพันคดีอุ้มฆ่าหลายคดี และ นางธนพร สุขโขจัย อายุ 50 ปี ภรรยา

ล่าสุดเมื่อวันที่ วันที่ 6 ต.ค. พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการติดตามจับกุมตัว นายพันศักดิ์ และ นางธนพร พร้อมเปิดเผยว่า ทางตำรวจได้แบ่งทีมงานเป็นหลายชุดในการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้ได้ โดยจะไม่ประมาทกับคนร้ายรายนี้ เพราะเป็นบุคคลอันตรายที่เคยก่อเหตุฆ่าคนมาแล้วหลายคดี

พล.ต.ต.สุรจิต กล่าวต่อว่า หากชุดสืบสวนชุดไหนพบคนร้ายให้ใช้ความระมัดระวังตัวด้วย และเราคงไม่ให้นายพันศักดิ์ยิงก่อนแน่นอน โดยเรามียุทธการขั้นเด็ดขาดเตรียมพร้อมอยู่แล้ว และทราบว่าทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้จัดกำลังหน่วยอรินทราชาช่วยติดตามด้วย โดยพร้อมที่จะเข้าช่วยการจับกุมตลอดเวลาหากพบเบาะแสของผู้ต้องหา 2 รายนี้

พล.ต.ต.สุรจิต กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัตินายพันศักดิ์ เมื่อครั้งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ จะไม่ขัดขืนหรือต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่ประมาทแน่นอน และเชื่อว่า นายพันศักดิ์จะยังอยู่ในประเทศไทย โดยทางภาค 2 ได้สั่งการด่วน ตามด่านตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจเข้มตามแนวชายแดนและวางกำลังป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ แม้กระทั่งตามเส้นทางธรรมชาติด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ภิรมย์ กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของ นายดำรงค์ฤทธิ์ หรือ เฮียท้ง กิตติวราภรณ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่มีพยานบุคคลและพยานหลักฐานว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันเชื่อมโยงกับการสั่งตายนายประชาและภรรยา ทางเราได้ดำเนินการขอสำนวนการชันสูตรพลิกศพว่าการเสียชีวิตของนายดำรงค์ฤทธิ์เกิดจากการถูกทำร้ายหรือฆ่าตัวตาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน

พ.ต.อ.ภิรมย์ กล่าวต่อว่า หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทำการสอบสวนนายดำรงค์ฤทธิ์ไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเพียง 1 วัน ที่บ้านพักของนายดำรงค์ฤทธิ์ซึ่งอยู่ติดกันกับที่เกิดเหตุ และพบว่าวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา นายดำรงค์ฤทธิ์ได้หายออกจากบ้าน ก่อนจะไปเสียชีวิต ที่อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ส่วนตัวบุคคลที่นำพาตัวนายดำรงค์ฤทธิ์ไปส่ง หรือพยานอื่นนั้น ทางตำรวจรู้ตัวหมดแล้ว โดยอยู่ระหว่างการทำงานซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้

_____________________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน