นายกฯ เผยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้มีความสุขที่สุด ยันไม่เลื่อนโรดแมปแน่ แก้ไฟใต้เน้นการพัฒนา-ทำตามกฎหมาย ห่วงน้ำท่วมสั่งการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายลงทะเล

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า วันนี้ตนลงมาเพื่อติดตามงานการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ ตนสั่งการไปกับรัฐบาลส่วนหน้าที่ตั้งไว้ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง

โดยสั่งการในเรื่องการทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ทั้งหมดว่าจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนช่วงปฏิรูปอย่างไร จะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้ภายในปี 2560 มากที่สุด เพื่อที่จะได้เริ่มกระบวนการอื่นๆ ต่อไป รัฐบาลนี้มีเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

ขณะเดียวกันความปลอดภัยในการใช้กฎหมายก็ยังคงมีอยู่ เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป ซึ่งเราจะทำด้วยความระมัดระวัง ส่วนหน่วยงานด้านความมั่นคงก็ต้องดำเนินงานต่อไป และต้องก้าวหน้าตามลำดับด้วย หลายอย่างชี้ชัดว่าแนวโน้มสถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่จะเรื่องยุติธรรมทีเดียวคงจะลำบาก เพราะสถานการณ์เกิดมาหลายสิบปีแล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่อดีต เอาใช้ในการสร้างความเกลียดชังทำให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเห็นว่าคนรุ่นใหม่ ทั้งศาสนาพุทธและอิสลามก็มีความเข้าใจกันดี แต่ก็มีคนเห็นต่างอยู่บ้างในปัจจุบัน ซึ่งเขาใช้ความรุนแรงมากดดันรัฐบาล แต่รัฐบาลก็ยังคงมุ่นมั่นในการพูดคุยและเดินหน้า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ภาคใต้สถานการณ์ยุติให้ได้เร็วที่สุดคือการพัฒนา วันนี้ตนมาติดตามความก้าวหน้าในการทำสามเหลี่ยมแห่งความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่จะยึดโยงซึ่งกันและกันทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทางที่จะเกิดขึ้นในสามจังหวัด

ซึ่งทางจังหวัดต้องมีศักยภาพ ตนได้ให้แนวทางไปว่าภาคใต้ทั้งหมดสิบกว่าจังหวัดต้องมองภาพรวมของจังหวัดตัวเองด้วย ทั้งสามจังหวัดนี้มีศักยภาพในการเชื่อมโยงสาธารณูปโภคพื้นที่ การคมนาคมต่างๆดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง จึงพอจะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงได้ รวมถึงเชื่อมโยงในจังหวัดอื่นได้

ส่วนการเสนองบประมาณในวันนี้ ตนก็รับหลักการไปทั้งหมด เพื่อให้คณะทำงานได้กลั่นกรองอีกครั้งว่างบที่ขอไปเราจะให้อะไรก่อนบ้าง เพราะฉะนั้นในปีนี้ตนอยากให้จังหวัดเป็นกิจกรรมที่เป็นการสร้างมูลค่าโดยเฉพาะการที่สร้างกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชุมชน ตำบล หมู่บ้าน อำเภอและจังหวัด และเราจะมีงบอีกส่วนหนึ่งในเรื่องกลุ่มจังหวัดที่รัฐบาลจะให้ที่จะต้องสร้างความยึดโยงให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเราสามารถเริ่มประชารัฐคือการเริ่มเศรษฐกิจระดับฐานรากได้ เมื่อฐานรากเกิดขึ้นไม่ใช่แค่การผลิตอย่างเดียวจะต้องมีการแปรรูปขั้นที่หนึ่ง เช่น อาชีพยางที่ตอนนี้แปรรูปจะน้ำยางเป็นยางก้อนและยางแผ่น ไม่ใช่ขายเพียงน้ำยางก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้น ถ้าเราทำตรงนี้ได้ก็จะทำให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้น เราจะส่งเสริมให้มีการแปรรูปในพื้นที่ถ้าในพื้นที่มีไม่เพียงพอ ก็จะมีนักลงทุนไทยมาเสริมให้ จากนั้นการแปรรูปขนาดก็จะตามมา

ทั้งนี้หลายประเทศก็ให้ความสนใจ ทั้งหมดจะทำให้เกิดความมั่นคง แต่ถ้าคิดงานออกมาแบบเดิมหรือจังหวัดขออะไรเราก็ให้หมด แบบนั้นก็ทำไม่สำเร็จและไม่เห็นอนาคต เราจะต้องทำอนาคตและปัจจุบันไปด้วยกัน การจะทำอะไรต้องคิดย้อนกลับมาว่าเราต้องต้องการอะไรเราถึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติว่า 20 ปีภาคใต้จะเป็นอย่างไร เราจะวาดภาพให้เห็นถึงจะรู้ตัวว่าจะต้องปรับตัวอย่างไร นี่คืออนาคตขณะนี้อาจยังมองไม่เห็นแต่ทุกอย่างกำลังจะเริ่มขึ้น

“หลายประเทศที่มาพบผมเข้าใจเรื่องงานการเมืองว่าโรดแมปคืออะไร โรดแมปคือการเลือกตั้ง คำว่าเลือกตั้งคือเริ่มกระบวนการเลือกตั้ง การหาเสียง และนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งที่ได้รัฐบาล ซึ่งใช้เวลาพอสมควร สุดแล้วแต่ว่าเวลาตรงไหนก็ตรงนั้น ผมไม่เคยเลื่อน วันนี้มีสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนา การเดินหน้าการปฏิรูป ยุทธศาสตร์ระยะแรก และการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวภาคใต้ ผมรู้ว่าท่านลำบาก ยังไม่มีความเพียงพอ พอเพียงในการใช้ชีวิต ผมจึงต้องเร่งรัดให้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาซึ่งจะเร่งรัดมากที่สุด คงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่าย ขอขอบคุณทุกคนที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาถวายบังคมพระบรมศพ ตนเห็นแล้วว่าทุกคนมาคอยกันครึ่งวัน เดินทาง 2-3 วัน นี่คือสิ่งที่โลกยอมรับเราว่าไทยสงบสุขตอนนี้ และทุกคนเข้าใจเรื่องการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตลอดระยะเวลา 70 ปี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่รับสั่งเสมอว่า ให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และมีความสุขมากที่สุดตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตามตามที่พระองค์ท่านรับสั่งไว้ก่อนปีใหม่

นายกฯ กล่าว ในส่วนของกระทรวงต่างๆ วันนี้พูดถึงแนวทางการทำงานของกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ตนต้องการให้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมซึ่งประสบมายาวนาน ทุกคนเคยชินกับการท่วม 2-3 ครั้ง แต่วันนี้ไม่ได้แล้วเราต้องดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งเกิดจากการระบายลงทะเลช้า น้ำในคูคลองก็เอ่อล้นมา เราจะทำอย่างไรตรงนี้ ดังนั้นต้องมีการขุดคลองระบายน้ำเพิ่มเติมหรือไม่ ตนได้ให้ไปศึกษาแล้วคือให้ไปเสริมคันกั้นน้ำ เสริมอ่างเก็บน้ำบ้างในบางพื้นที่ ทั้งหมดต้องเรียบร้อย ช่วงนี้ก็จะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้มากที่สุด เพื่อให้ระบายน้ำลงทะเลมากที่สุด ต้องขอเวลาแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระยะแรกให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ อะไรที่ลดลงได้ทำเสียตั้งแต่ปีนี้ แต่ตนยืนยันอยู่ว่า มันต้องทำมากกว่านี้เยอะ เพราะมันทำมาได้ต่อเนื่องกันหลายเรื่อง ต้องขอความร่วมมือการแก้ปัญหาน้ำท่วม จากภาคประชาชนด้วย หากสร้างอะไรไม่ได้เลย ก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องชั่งน้ำหนักดูว่า เราจะเสียสละอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้อะไรที่ดีกว่ากลับมา ถ้าทุกคนยังรักษาของเดิมไว้ทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้น ต้องเชื่อใจรัฐบาลว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้ต้องการได้ประโยชน์อะไรกับท่านทั้งสิ้น ตนต้องการสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องชาวใต้ทั้งหมด

นอกจากนี้ ก็เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยที่พูดเรื่องไฟฟ้า ภาคใต้ตนขอร้องพี่น้องประชาชนว่า เรามีปัญหาเรื่องไฟฟ้าที่ขาดแคลนไม่เพียงพอ ติดๆดับๆ ซึ่งก็มีปัญหาเรื่องก่อสร้างโรงไฟฟ้า ตนได้ให้ไปศึกษาว่า จะสร้างที่ไหนอย่างไร แต่ประชาชนต้องเสนอความต้องการมาให้ชัดเจน แต่ถ้าไม่มีก็จะเป็นเดิมๆ แก้อะไรไม่ได้อีก เราจะทำอย่างไร เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่า ต้องสร้างเสริม ซ่อมแซม สิ่งที่เสียไป เพื่อทดแทนขึ้นมา ต้องคิดแบบนี้ มีอะไรไหมที่ได้มาโดยไม่ต้องลงทุน ได้มาเปล่าๆ ไม่มีหรอกในโลกใบนี้ ต้องมีได้กับมีเสีย คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ คนส่วนน้อยต้องได้รับการดูแล แต่ถ้าเอาน้อยเอาตีกับคนส่วนใหญ่ แล้วทำอะไรไม่ได้ก็จะไม่ได้ทั้งคนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อย คนไทยต้องเข้าใจส่วนนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเน้นภาคใต้ในเรื่องการเกษตร จะต้องเป็นการเกษตรที่ครบวงจร อาหารฮาลาลต้องเกิดขึ้นให้ได้ในระยะที่ 1 เพื่อไปสู่การเป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาลของอาเซียน เรื่องการทำสนามบินก่อสร้างเส้นทางก็อยู่ในแผนงานทั้งหมด บางครั้งเราต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมๆกับการใช้งบประมาณกับการก่อให้เกิดรายได้ไปด้วย ไม่เช่นนั้นทำถนนสัญจรอย่างดี แต่คนส่งสินค้าก็จำเป็น

ดังนั้น ต้องไปพร้อมๆกัน ซึ่งรัฐบาลก็รับไปทั้งหมด ขณะที่สินค้าจีไอ ต้องจดลิขสิทธิ์ขึ้นทะเบียนที่มาเพื่อการแข่งขัน เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ต้องรับไป ซึ่งภาคใต้เน้นการปลูกข้าวท้องถิ่น จะต้องนำไปสู่การผลิตข้าวอินทรีย์ให้ได้ ขณะที่การค้าธุรกิจอีคอมอีคอมเมิร์ซ โดยเราจะวางระบบอินเตอร์เน็ตให้ครบพื้นที่ในปี 60 เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ สามารถขายของได้ด้วยตัวเอง เช่น การขายข้าว ซึ่งการขายข้าวปลีก ไม่ใช่ส่งโรงงานอย่างเดียว

ขณะที่เรื่องการปศุสัตว์ซึ่งไทยค่อนข้างอ่อนแอ และมีน้อย อยากให้ควบคู่กับการทำเกษตร ส่วนเรื่องอุตสาหกรรม อยากให้เกิดอุตสาหกรรมเบาบ้าง เพื่อรองรับสินค้าการเกษตรเหล่านี้ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ในส่วนของงานประชารัฐนั้นเป็นช่องทางที่ 1 ซึ่งมีภาคธุรกิจเข้ามาช่วย วันหน้าจะเหลือแต่ภาคประชาชนเข้ามาทำเอง หลังจากเรียนรู้ไปแล้ว ในส่วนของการศึกษาจะเน้นให้การศึกษาในภาคใต้ไปสู่การศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องขอร้องชาวมุสลิมที่เป็นเจ้าของโรงเรียนปอเนาะ ตาดีกา ว่าทำอย่างไรจะเรียนรู้ทั้งศาสนาและสายสามัญไปด้วย ไม่อย่างนั้นโอกาสในการแข่งขันของเด็กในวันหน้าจะน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไปละเมิดอัตลักษณ์ทางศาสนาใดๆทั้งสิ้น

“รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกปัญหา ซึ่งแน่นอนไม่มีอะไรที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะเห็นชอบด้วยกันทั้งหมด อย่างน้อยต้องมีคนไม่เห็นชอบ แต่จะทำอย่างไร ให้การเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย และทุกประเทศในโลกคือเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น และส่วนน้อยก็ต้องดูแลไปด้วย ไม่ใช่ดูแลแต่ส่วนใหญ่ ดูแลแต่พวก ดูแลแต่คะแนนเสียง มันไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นอย่างนั้น ผมอยากให้ประชาชนได้เข้าใจ ขอความร่วมมือจากนักวิชาการ มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษามาร่วมทำในเรื่องนี้ด้วย ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณชาวใต้ทุกคนที่อดทนสู้กับภัยธรรมชาติมาอย่างแสนสาหัส สู้จนชิน อะไรที่ตัวเองลำบาก ก็ลำบากจนชิน จนไม่รู้สึกลำบาก แต่รัฐบาลรู้ถึงแม้ว่า ตนจะไม่ได้เป็นคนใต้ก็ตาม แต่ตนรู้เพราะตนเคยเป็นผบ.ทบ.มาก่อน วันนี้ตนให้ความสำคัญ แต่การที่นายกฯจะมาหรือไม่มา ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญที่ว่า นายกฯทำงานที่ไหนก็ต้องทำได้ ที่ผ่านมารู้ว่าพี่น้องยากลำบาก ส่วนข้าราชการก็ทุ่มเท ทำงานในพื้นที่ ตนมาก็ต้องวุ่นวายกับเขาอีก

เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นตนก็ต้องมาให้กำลังใจพวกเขา มาเติมที่เขาขาดอยู่ ที่ผ่านตนไม่เคยทอดทิ้ง เดี๋ยวจะมาโทษว่าตนมาหรือไม่มา แต่ไม่ว่าตนจะมาหรือไม่มาแต่ใจมาถึง ตนทำงานทุกวันถึงทุกจังหวัด โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)และตนยืนยันหลักการว่า เราทำงานเพื่อคน 70 ล้านคน ไม่ใช่ทำงานให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ ทั้งหมดต้องเกิดผลิตผลขึ้นมาให้ได้ หากเกิดผลิตผลที่ไม่มีคุณภาพขึ้นมามันก็ไร้ประโยชน์ ทุกคนอยากให้มีถนนก็โอเค จะมีแผนรายปีไปเรื่อยๆ อะไรจำเป็นก็ทำให้ก่อน ถือเป็นคำสัญญาว่าจะทำให้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน