ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานพยาน คดีคนร้ายยิงถล่มค่ายมวยที่อยุธยา ไล่เช็กวงจรปิดเพิ่ม หาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ขณะที่ผบ.ตร.สั่งเร่งคดีติดตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ยิงถล่มค่ายมวย / เมื่อวันที่ 30 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณี ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวย เข้าร้องกองบังคับการปราบปรามเรื่องคดีไม่คืบหน้า หลังถูกคู่อริใช้อาวุธปืนยิงถล่มค่ายมวย ในพื้นจ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อ 13 ก.ย. ว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์ รรท.ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จากการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดย ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 02.30 น.

ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 6 คน กำลังนั่งดื่มสุราและรับประทานอาหารอยู่ภายในบ้านเกิดเหตุ มีคนร้ายจำนวน 2 คน สวมหมวกนิรภัย ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามามาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุแล้วใช้อาวุธปืนขาด.45 มม. ยิงเข้าไปในบริเวณที่กลุ่มผู้เสียหายอยู่จำนวนหลายนัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แล้วคนร้ายพากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

หลังจากเกิดเหตุพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและที่เกี่ยวข้องได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานในเหตุการณ์ และรับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินการตามกฎหมาย อีกทั้งชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และออกสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับคนร้ายและเส้นทางการหลบหนี

ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก และส่งของกลางในคดีไปตรวจเปรียบเทียบที่พิสูจน์หลักฐาน และตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง ชุดสืบสวนระดมกำลังลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงของเส้นทางการหลบหนี และตรวจสอบหารถจักรยานยนต์คันที่ต้องสงสัยในพื้นที่

เพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนร้าย อีกทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามได้ร่วมกันออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ และตรวจเยี่ยมไปยังบ้านเกิดเหตุเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหาย ทั้งผลัดกลางวันและกลางคืน

สำหรับกรณีที่มาร้องต่อกองปราบปราม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวว่าคดีจะล่าช้านั้น ก็สามารถทำได้เพราะประชาชนหรือญาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีผู้ใดก็ตามนั้น สามารถตรวจสอบการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างคู่ขนานอยู่แล้ว

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ซึ่งในชั้นนี้คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีจากพิสูจน์หลักฐาน และการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงไปยังคนร้ายที่ก่อเหตุ และสามารถยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยในส่วนของผู้เสียหายรรท.ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องแจ้งผู้เสียหาย เพื่อเข้าสู่มาตราการคุ้มครองพยานเพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินแล้ว สอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เน้นย้ำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดีให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย ใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ และจะต้องจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม

พร้อมยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจตราและป้องกันเหตุการณ์ประทุษร้ายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชน อย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีแผนการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์อาชญากรรม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน