อัจฉริยะ โร่พบ ผบช.น. ยื่นหลักฐานเอาผิด ร.ต.ท. กับพวก สน.ธรรมศาลา ปม วิ่งเต้นคดี พันทนายดัง ช่วยลดโทษผู้ต้องหายาเสพติด หลังพฤติกรรมเข้าข่ายช่วยพ่อค้ายานรกรายใหญ่ในพื้นที่ภาค 7 แฉทำเป็นขบวนการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. ให้ตั้งคณะกรรมการสอบ ร.ต.ท. นายหนึ่ง กับพวก ในสน.ธรรมศาลา เกี่ยวกับการหาประโยชน์จากการขอลดโทษตาม ม.100/2 โดยอาจเข้าข่ายมีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ด้วยการช่วยเหลือพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) โดยมีการทำเป็นขบวนการคล้ายกับการช่วยเหลือ น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 ซึ่งถูกจับกุมยาเสพติดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2560

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ตั้งคณะกรรมการสอบตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ธรรมศาลา ที่ช่วยเหลือผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาค 7 ขายข้อมูลตาม ม.100/2 โดยเกี่ยวข้องกับทนายรูปหล่อคนดังเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เป็นยาเสพติดจำนวนมากที่ช่วยเหลือ โดยมีอัยการที่เป็นอดีตหน้าห้องอัยการสูงสุดคนปัจจุบันให้การช่วยเหลือ

โดยได้นำหลักฐานคำพิพากษาศาล การเบิกความเท็จของชุดจับกุม จดหมายที่ออกมาจากกรมราชทัณฑ์ และข้อมูลรายงานการสืบสวนถึงรองผกก.ป.สน.ธรรมศาลา มามอบให้

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ลักษณะการช่วยเหลือนั้น ถ้าทนายคนดังกล่าวดำเนินการผ่านอัยการคนที่พูดถึง การขอลดโทษตาม ม.100/2 จะได้รับการอนุมัติผ่านทุกครั้ง ซึ่งอัยการคนดังกล่าวก็พัวพันกับคดีของสองผัวเมียเจ้าของอาหารทะเลที่เคยมีคลิปเสียงปรากฏขึ้นมาด้วย โดยพฤติการณ์เป็นลักษณะเดียวกันกับการช่วยเหลือ น.ส.อาเมเรีย โดยมีทนายดังเป็นโปรโมเตอร์แล้วจ้างทนายคนอื่น และจ้างตำรวจดำเนินการตาม ม.100/2

“แต่ของคดีดังกล่าวมีการขาย ม.100/2 เป็นลักษณะการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคนที่ 1 แล้วจับกุมผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้ แล้วจะได้รับโทษน้อยลง คล้ายกับการใช้การซัดทอดบุคคลอื่น ให้ได้รับโทษลดลงจากโทษประหารชีวิตเหลือเพียง 12 ปีครึ่ง” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.สมุทรสาคร เป็นการอ้างว่าภรรยานักโทษอยู่ในเรือนจำให้ข้อมูลกำหนดวันว่าจะมีผู้ต้องหาคนหนึ่งเอายาเสพติด 1 แสนเม็ดมาในพื้นที่สน.ธรรมศาลา แล้วนำข้อมูลดังกล่าวไปอยู่ในบันทึกการจับกุม โดยเอามาขยายผลตอนไปยื่นให้อัยการและยื่นต่อศาล เพื่อให้ผู้ต้องหาคดียาเสพติดดังกล่าวให้ได้รับการลงโทษน้อยลง

“คดีดังกล่าวมีตำรวจยศ ร.ต.ท. มาสวมรอยทำเอกสารย้อนหลังจากจับกุมแล้ว ทำรายงานการสืบสวนไปยังรอง ผกก.ป.สน.ธรรมศาลา ยื่นเอกสารวันที่ 22 พ.ค.59 และจับกุมได้เมื่อวันที่ 23 พ.ค.59 แล้วอ้างว่ามีจดหมายจากนักโทษในเรือนจำวันที่ 19 พ.ค.59 ทั้งนี้ ในพื้นที่บช.ภ.7 ทนายคนดังกล่าวทำคดีลักษณะเดียวกันไม่ต่ำกว่า 5 คดี ผมจะขยายผลการตรวจสอบในสัปดาห์หน้าต่อไป” นายอัจฉริยะ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

____________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน