จากกรณีเกิดเหตุเรือนำเที่ยว “สมบัติมงคลชัย” ซึ่งเป็นเรือ 2 ชั้น บรรทุกผู้โดยสารชาวมุสลิมที่เหมาเป็นขบวน 15 ลำ จาก 2 มัสยิดพื้นที่ ต.สำเภาล่ม กับ ต.ประตูชัย จ.พระนคร ศรีอยุธยา มาพบปะสังสรรค์ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมานาน เสียหลักชนแพท่าน้ำหน้าวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วล่ม เป็นเหตุให้มี ผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่เจอครบแล้ว 28 ศพ โดยซากเรือก็กู้สำเร็จแล้ว กรมเจ้าท่าใช้เครนยักษ์ยกลากไปพิสูจน์หลักฐาน ขณะที่ตร.แจ้ง 4 ข้อหาคนขับเรือตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว ครบ28ศพ เหยื่อล่ม-กู้เรือได้แล้ว สรุปยอดได้รับบาดเจ็บ51 คมนาคมสั่งติดระบบชี้พิกัด คนขับโดนเพิ่ม

201609211450072-20160711155708

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมเจ้าท่ายกเรือโดยสารที่ล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้าวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วเคลื่อนย้ายมาจอดที่บริเวณหน้าโบสถ์ยอแซฟ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจุดที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่อุดรอยรั่วของเรือ และสูบน้ำออกจากลำเรือจนเรือลอยพ้นผิวน้ำ ยังคงใช้เครนขนาดใหญ่ประคองเรือโดยสารเอาไว้

201609211452204-20160711155708
นายนิกร แก้วผ่อง หัวหน้าประดาน้ำทีมช่างกู้เรือ เปิดเผยว่า หลังจากกู้เรือเสร็จพบว่าหัวเรือด้านขวามีรอยแตกชำรุดเกิดจากการกระแทก กว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ยาว 8 เมตร จึงให้นักประดาน้ำดำลงไปใช้ผ้าใบอุดรอยรั่วก่อนที่จะใช้ไม้อัดตีทับ แล้วสูบน้ำออกจากเรือ

201609211450074-20160711155708
ด้านนายวิทยา ยาม่วง ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ให้คณะกรรมการอิสลาม เข้าตรวจสอบทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตผู้บาดเจ็บ ที่ตกค้างอยู่ในเรือให้นำเก็บไปรักษา ส่วนการกู้เรือเรียบร้อยดี เตรียมที่จะเคลื่อนย้ายเรือไปที่คานเรือศรีเจริญ ต.คลอวงสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

201609211450089-20160711155708
ทั้งนี้ พบว่าเรือมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน วิ่งด้วยความเร็ว และเร่งเครื่องแซงเรือบรรทุกทรายที่กำลังลากเข้าโค้งน้ำ โดยเป็นการแซงทางด้านขวาของเรือทราย จนช่องว่างระหว่างเรือทรายและแนวตลิ่งมีน้อย ทำให้เรือลำที่จม มีพื้นที่แล่นได้ไม่มากนัก และเมื่อเรือเข้าไปอยู่ระหว่างกลาง ด้วยความแรงของเรือและแรงกระแทกของคลื่น ให้เรือเสียการการควบคุมทิศทาง จนหัวเรือเริ่มเบนเข้าหาตลิ่ง

201609211452203-20160711155708
ซึ่งคนขับเรือพยายามจะถอยหลังหรือ หรือเรียกว่าการเบรกความเร็ว แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จนทำให้เรือพุ่งเข้าหาเขื่อนปูนหน้าวัด ที่เป็นสันเขื่อนด้านล่างยื่นมาจากตลิ่ง 3 เมตร ยาว 32 เมตร จนเกิดการกระแทกอย่างแรงเข้าที่ท้องเรือด้านขวา และแตกเป็นแผลยาวถึง 8 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท้องเรือ ตรงจุดนี้แน่นอนว่า คนขับเรือประมาทมากในการขับเรือจนเกิดเหตุขึ้น โดยในส่วนของคดีอาญาทางตำรวจได้ทำสำนวนแล้ว ส่วนของกรมเจ่าท่า ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเช่นกัน
นายดนุภพ พินโน อายุ 47 ปี กรรมการสุเหล่าอารีย์ยินูลอ เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้เสียชีวิตมีจำนวน 28 ราย ส่วนเด็กชายที่ยังค้นหาตัวไม่พบนั้น ล่าสุดจากการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นความตกใจของญาติที่แจ้งการสูญหายคาดเคลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จุดเกิดเหตุพบว่ากระแสน้ำยังไหลแรง หลังจากที่ย้ายเรือไปแล้ว ยังไม่มีการติดตั้งทุนหรือแสดงสัญลักษณ์เพื่อเตือนเรือที่สัญจรไปมาและเพื่อป้องกันเหตุการซ้ำรอยขึ้น

จากนั้นเวลา 10.30 น. ที่คานเรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าเรือภูมิภาคที่ 2 นำเรือโดยสารลำเกิดเหตุขึ้นคานเรือ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ โดยมีพ.ต.อ.ธนศักดิ์ ปานแย้ม รองผบก. พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พระนครศรีอยุธยา ทำการเปิดแผลบริเวณท้องเรือด้านขวา ทำการวัดระยะความกว้าง ความยาว และบาดแผลที่เริ่มทำให้น้ำไหลเข้าเรือ ตามคำให้การของผู้ประสบภัยที่อยู่ในเรือ และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นายวิทยา กล่าวว่า จะต้องทำการตรวจสอบแบบการก่อสร้างเขื่อนบริเวณหน้าวัดสนามไชย ว่ามีการก่อสร้างแนวเขื่อนที่ยื่นไปในแม่น้ำหรือไม่ และที่ยื่นไปมีขนาดความกว้างความยาวเกินกว่าที่กำหนดหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องทำการสำหรับแนวเขื่อนบริเวณอื่นด้วยว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่

พ.ต.อ.ธนศักดิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้เราแจ้งข้อกล่าวหา นายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี คนขับเรือข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 3.ขับเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าที่ได้รับอนุญาต และ 4.ใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝากขังเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนของนายสุนทร พันธุ์เสือทอง เจ้าของเรือ ได้สอบปากคำแล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือว่าทราบหรือไม่ว่า มีการกระทำความผิดว่ามีการนำเรือไปกระทำความผิด เพื่อแจ้งหาร่วมกันกับคนขับเรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมคนขับเรือในข้อหาใช้ยานพาหนะ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีก 1 ข้อหา รวมเป็น 5 ข้อหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน