สาวฟิสิกส์ เบี้ยวนัด ตร. เตรียมแจ้ง 2 ข้อหา คนเจ็บดูคลิปให้เอาผิดหมิ่นซึ่งหน้า!
จากกรณีสาวรายหนึ่งเปิดประตูรถแท็กซี่ ชนรถจักรยานยนต์ จนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังลงมาด่าคนเจ็บซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ระหว่างเกิดเหตุหญิงสาวรายดังกล่าวมีกลิ่นแอลกอฮอล์และอ้างว่า อย่ามาแอ๊กติ้ง เรียนฟิสิกส์มา จะเรียกเงินก็บอก จนกลายเป็นวลีเรียกเธอว่า สาวฟิสิกส์
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.ศรัณยา อ่อนสุวรรณ์ อายุ 56 ปี ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ได้เดินทางมารายงานตัวพร้อมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ดีๆ สาวที่ก่อเหตุ ก็เปิดประตูพรวดพราดลงไปจากรถโดยที่ไม่ทันตั้งตัว จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยได้รับผู้โดยสารมาจากคอนโดฯย่านยานนาวา เพื่อไปส่งที่ย่านอโศก ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากผู้โดยสาร แต่ก็ยังคุยกันรู้เรื่อง เพราะคุยเรื่องจุดหมายที่จะไปส่ง
คนขับแท็กซี่ ยันไม่รู้เห็นเปิดประตูรถชน จยย.
“ก่อนเกิดเหตุวิ่งถนนพระราม 3 ข้ามแยกมา ติดอยู่เลนขวาสุด ได้ยินผู้โดยสารบ่นว่า ทำไมรถติดจัง และรู้อีกที ผู้โดยสารก็เปิดประตูลงจากรถจนชนรถจักรยานยนต์ ซึ่งตอนนั้นก็โมโหว่า เปิดประตูออกไปทำไม และห้ามไม่ให้เอากระเป๋าลงจากรถเพราะกลัวว่าจะหนี จากนั้นผู้โดยสารก็เดินไปต่อว่า คนเจ็บ หากเจอก็อยากจะเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งประกันตีไว้ว่า ค่าเสียหายประมาณ 8 พันบาท”คนขับแท็กซี่กล่าว
ด้านพ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น รองผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า เมื่อเช้าได้ไปเยี่ยมคนเจ็บมา ยังมึนศีรษะอยู่ ยังให้น้ำเกลืออยู่ รู้สึกตัว แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ เพราะยังนึกเหตุการณ์อยู่ และรู้สึกมึนอยู่ ส่วนผู้ขับขี่แท็กซี่จะกันไว้เป็นพยาน และให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็น กับการให้ผู้โดยสารเปิดประตู ผู้โดยสารได้เปิดประตูลงไปเอง
สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ได้นัดไว้ 14.00 น. โดยก่อนหน้าผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่าจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จึงได้เรียกให้เข้ามาพบก่อนที่จะเดินทาง โดยแจ้งว่า จะเดินทางไปประมาณ 2 สัปดาห์ เบื้องต้นจากการพิจารณาแล้ว ที่จะแจ้งข้อหา คือ กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บกายหรือจิตใจ และ ข้อหาดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า โดยผู้บาดเจ็บมีความประสงค์จะให้ดำเนินคดีในกรณีดูหมิ่นซึ่งหน้าด้วย โดยในวันนี้หากมาก็จะแจ้งข้อหาเลย
อ่าน ตำรวจ มึน คุยสาวเรียนฟิสิกส์ไม่รู้เรื่อง ชี้กลิ่นเหล้าหึ่ง ขอเลื่อนให้ปากคำ!
อ่าน สาวเมาชี้หน้าด่า”คนเจ็บ”คู่กรณีกลางถนน บอก”กูเรียนฟิสิกส์ มึงอย่ามาตอแหล”
