เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการ”ชัยยะสยบไพรี 60/1″ เข้าค้นเป้าหมายปิดล้อมจำนวน 36 จุด โดยในวันนี้เข้าจับกุมตัวนายไซซะนะ แก้วพิมพา (Mr.Xaysana Keopimpha) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาที่ 5/2560 ลงวันที่ 9 มกราคม 2560
พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้สืบสวนเพื่อขุดรากถอนโคนทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลำเลียงสู่พื้นที่ตอนใน และจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ระหว่างปี 2558-2559 มีการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญจำนวน 4 คดี
จากการขยายผลพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คดี จากการสืบสวนในภาพรวมพบว่ามีการจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ้างกลุ่มขนส่งลำเลียงใช้รถยนต์ที่มีช่องลับ ซุกซ่อนยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วข้ามฝั่งมายังประเทศไทย ลำเลียงสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีขบวนการขนลำเลียงมีทั้งรถนำและสำรวจเส้นทาง รถขนส่งลำเลียง และรถคุ้มกันกลุ่มธุรกรรมทางการเงินและผู้ประสานงานสั่งการทุกครั้ง
จากข้อมูลทั้ง 4 คดี ทำให้พนักงานสอบสวนบช.ปส.สามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งสิ้น 9 ราย เป็นชาวไทย 7 ราย และชาวต่างชาติ 2 ราย
ต่อมาเวลา 17.30 น. สายลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปซุ่มรอภายในจุดผู้โดยสารขาเข้า เพื่อรอนายไซซะนะ นั่งเครื่องบินเดินทางมาจากจ.ภูเก็ต กระทั่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบนายไซซะนะเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนอีก 3 ราย จึงแสดงหมายจับและชาร์จจับกุมตัว ทำให้บรรยากาศภายในสนามบินเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย
พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า คนร้ายเป็นผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เป็นการดำเนินการของบช.ปส., บช.ก., ตำรวจภูธรภาคต่างๆที่จับเครือข่ายของพวกนี้ได้สอบสวนสืบสวนมีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่จับในวันนี้
ฉะนั้นวันนี้เราออกหมายจับทราบชื่อคือนายไซซะนะ แก้วพิมพา และจะยึดทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อหยุดและตัดเส้นทางการจำหน่าย เวลา 5 ปีมีคนถูกจับไปแล้วกว่า 50 รายแล้ว สำหรับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในส่วนของพฤติกรรมคนร้าย นายไซซะนะ เป็นผู้ส่งยาบ้าให้กับเครือข่ายชาวไทย
พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า จากนี้จะมีการตรวจสอบยึดทรัพย์อีกหลายจังหวัด ทั้งบช.ภาค1, ภาค3, ภาค 5 เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังไปหมดแล้ว สำหรับนายไซซะนะอยู่ในเครือข่ายเดียวกันกับอุสมานสแลแมง กลุ่มยาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ ซึ่งนายไซซะนะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญมาก ใหญ่กว่า “เล่าต๋า แสนลี่” ราชายาเสพติดภาคเหนือ และเชื่อว่ามีความรู้สูง มีวิธีการหลบหนีมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ไม่เคยถึงตัวได้เลย
“ปกตินายไซซะนะพักอาศัยอยู่แถวภาคอีสาน ช่วงนี้นายไซซะนะเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ไปเที่ยวภูเก็ต หลังจากนี้จะควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินต่อไป โดยจะนำไปแถลงที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ในวันที่ 20 ม.ค.ต่อไป”ผบช.ปส.กล่าว
