หนุ่มควายยิ้ม โร่พบอัยการจังหวัดชัยนาท ปรึกษาด้านกฎหมาย หลังถูกนายก อบต.สุขเดือนห้า เข้าแจ้งความที่สน.คันนายาว ปมเรี่ยไรเงินซื้อ “เจ้าทองคำ” เตรียมเรียกคู่กรณีไกล่เกลี่ย แนะหากถูกหมายเรียกให้พบพนักงานสอบสวน

จากกรณี ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วย นายบุญเลิศ กาฬภักดี อายุ 64 ปี นายก อบต.สุขเดือนห้า เดินทางเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ออกมาเรี่ยไรเงินไถ่ตัวควาย “เจ้าทองคำ” กลับคืนมา ในราคา 100,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หนุ่มควายยิ้ม / ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ พร้อมด้วยภรรยา และนายสมชาติ สุดโสม พ่อตา ซึ่งเป็นผู้ที่รับเงิน 100,000 บาท และนำให้ นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายกอบต.สุขเดือนห้า เดินทางมายังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดชัยนาท เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาทางด้านกฎหมาย โดยมีนายมนตรี สิงหะ อัยการจังหวัดชัยนาท พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยนาท ร่วมให้คำปรึกษา

นายมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากนายสุรัตน์ เบื้องต้นมีแนวทางเรียกคู่กรณี คือ นายบุญเลิศ และทนายสงกานต์ มาพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน เพื่อยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยังแนะนำให้นายสุรัตน์ไปพบกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เมื่อได้รับหมายเรียก และหากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุรัตน์ไว้ ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดก็เตรียมขออนุมัติเงินกองทุนยุติธรรม เพื่อดำเนินการทำเรื่องขอประกันตัว รวมทั้งเตรียมทนายความอาสาเพื่อต่อสู้คดีต่อไป

ด้าน นายสุรัตน์ กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวเดินทางมาเพื่อมาขอความเป็นธรรม และปรึกษาด้านคดีความเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งตนไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย โดยทางสำนักงานอัยการได้มีแนวทางที่จะเรียกคู่กรณีทั้งหมดมาไกล่เกลี่ย แต่ยังไม่รู้วันที่ และในตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ให้เข้าไปพบ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปพบ และจะขอให้มีทนายเดินทางไปด้วย เพื่อให้เกิดความสบายใจ

“ส่วนเรื่องคำว่า “ไถ่” ผมมีความรู้สึกตามภาษาชาวบ้านว่า การซื้อกระบือมาทำการเลี้ยงโดยไม่มีการขายเขาออกไป และผมไม่คิดว่าทั้งๆที่มีการตกลงในการซื้อกันแล้ว จะเกิดเรื่องราวนี้ขึ้น แต่ตอนนี้เริ่มสบายใจขึ้น เพราะว่าทางอัยการได้ให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย และพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากให้ “เจ้าทองคำ” กลับมาอยู่ด้วยกัน” นายสุรัตน์ กล่าว

นายสุรัตน์ กล่าวต่อว่า ตนพร้อมจะพัฒนาคอกควายของตน เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ ส่วนเรื่องเงินที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ตนก็อยากที่จะให้เพื่อนๆที่ร่วมบริจาคเงินเข้ามารวบรวมรายชื่อ หากมีใครต้องการได้เงินคืน ตนก็พร้อมที่จะคืนเงินให้ แต่ในตอนนี้ ก็ยังไม่มีผู้ใจบุญคนไหน ติดต่อเพื่อขอรับเงินคืน มีแต่รวบรวมรายชื่อเพื่อแสดงว่ายินดีมอบเงินให้กับตนในการซื้อเจ้าทองคำ

“สุดท้ายหลังจากที่ เจ้าทองคำ เดินทางเข้าไปอยู่ยังสน.คันนายาว ผมก็รู้สึกคิดถึงเจ้าทองคำจะมีความเป็นอยู่เป็นอย่างไร และหวังว่าสุดท้าย เจ้าทองคำ จะกลับมาอยู่กับผมอย่างมีความสุข จากนี้ไป ขอหยุดให้ข่าวเพื่อรอการไกล่เกลี่ยให้จบโดยเร็วเรื่องจะได้ไม่ยืดเยื้อ” นายสุรัตน์ กล่าว

_____________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน