จากกรณี “น้องปูเป้” (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ถูกฆ่าเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา บริเวณคันนาในพื้นที่ ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ขณะมาทำพิธีครอบครูที่สำนักร่างทรงในพื้นที่ดังกล่าว โดยพบศพช่วงเย็นวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเวลา 22.00 น. ตำรวจ สภ.ทุ่งคอก เข้าจับกุมนายกฤษฎา ใจเอื้อย อายุ 20 ปี ร่างทรงเจ้าพ่อเสือ โดยจับได้ที่สำนักปู่เสือ ต.ทุ่งคอก เบื้องต้นนายกฤษฎา รับสารภาพว่าวางยาเบื่อแล้วข่มขืนเหยื่อในสำนักร่างทรงก่อนนำศพไปทิ้งจริง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายกฤษฎา หรือกฤษ ใจเอื้อย อายุ 20 ปี ร่างทรงผู้ต้องหา ออกจากสภ.ทุ่งคอก เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีฆ่าขืนใจน้องปูเป้ โดยจุดแรกตำรวจนำตังนายกฤษฎาไปที่สำนักร่างทรงปู่เจ้าเสือ ซึ่งเป็นบ้านพักที่นายกฤษฎาอาศัยอยู่กับยายวัย 75 ปี โดยเป็นจุดที่น้องปูเป้มาทำพิธีครอบครู จากนั้นนายกฤษฎาได้ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่เหยื่อสาวปฏิเสธ และบ่นว่าปวดท้อง

นายกฤษฎาจึงบอกว่าจะเอาชาโบราณมาให้ดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวดท้อง จากนั้นได้นำยาฆ่าหญ้าผสมกับน้ำชาใส่ถ้วยมาให้เหยื่อสาวดื่มบนสำนักร่างทรง สักพักเหยื่อสาวก็มีอาการเบลอ สะลึมสะลือ

นายกฤษฎาจึงฉวยโอกาสลงมือข่มขืนจนสำเร็จ จากนั้นพบว่าเหยื่อสาวหัวใจวายตาย จึงแบกศพลงไปข้างล่าง เอาใส่รถเข็นสาลี่นำไปทิ้งริมคันนาห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร

จุดต่อมาเป็นบริเวณที่นายกฤษฎาทำแผนนำศพเหยื่อมาทิ้ง ปรากฏว่ามีชาวบ้านกว่า 500 คนมารอดูหน้าฆาตกร ตะโกนสาปแช่งเสียงดังลั่นทุ่งนา โดยช่วงที่ตำรวจคุมตัวนายกฤษฎาชี้จุดที่ทิ้งศพ ปรากฏว่ามีชาวบ้านหลายคนวิ่งฝ่าที่กั้นตำรวจ ลุยข้ามท้องนาจะมารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จนตำรวจต้องรีบทำแผนแล้วนำตัวนายกฤษฎาขึ้นรถตู้กลับไปทันที เพราะเกรงว่าอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ เนื่องจากชาวบ้านมีความโกรธแค้นอย่างมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน