ประชาชนแห่ลงทะเบียนรับเสื้อ-สิ่งของพระราชทานในกิจกรรม “ไบค์ อุ่นไอรัก” วันแรกคึกคัก ประชาชนทยอยมาตั้งแต่ตี 5 คาดวันนี้เข้ารับเสื้อประมาณ 50,000 ราย

ไบค์อุ่นไอรัก / เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทาน แก่ประชาชนทั่วไปในกิจกรรม “ไบค์ อุ่นไอรัก” จำนวน 102,600 ชุด สำหรับประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมไว้ ณ สนามศุภชลาศัย

สำหรับการปฏิบัติเมื่อประชาชนเดินทางมาถึงยังบริเวณด้านหน้าสนามศุภชลาศัย ฝั่งถนนพระรามที่ 1 ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบหมายเลขกับฝ่ายทะเบียนของกองทัพอากาศเพื่อยืนยันตัวบุคคล แล้วไปยังจุดตรวจอาวุธ ตรวจสอบขนาดเสื้อ ยื่นเอกสารรับป้าย Tag จักรยาน และคูปองจดขนาดเสื้อ

จากนั้นไปตามเส้นทางที่กำหนดโดยมีแผนผังบอกเส้นทางการเดิน และมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยแนะนำตลอดเส้นทางเดิน จนกระทั่งถึงประตูช้างเข้าสู่บริเวณพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทานต่อไป

นอกจากนี้ ภายในบริเวณสนามศุภชลาศัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานครัวพระราชทานสำหรับบริการอาหารและน้ำดื่มให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนที่มาร่วมพิธีฯ รวมทั้งจัดสินค้าและการบริการ จากกรมการค้าภายใน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กระทรวงแรงงาน และจากภาคเอกชนต่างๆ

รวมไปถึงการแสดงดนตรี จากกองบัญชาการกองทัพไทย และ 3 เหล่าทัพ มาบริการประชาชนที่เดินทางมารับสิ่งของพระราชทานอีกด้วย

พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ภาพรวมเป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาพส่วนทั้งส่วนราชการและเอกชน ประชาชนเดินทางมาตั้งแต่เช้า 05.00 น. เรามีความยืดยุ่นโดยให้ประชาชนที่เดินทางมาก่อนเข้ามารับเสื้อก่อน จะมีพิธีรับมอบอย่างเป็นทางการ ทุกอย่างเรียบร้อยมากเป็นไปตามแผน

ในปีนี้เรานำบทเรียนจากกิจกรรม Bike for Dad มาปรับปรุง วางแผนให้ประชาชนใช้เวลาสั้นลง โดยแต่ละคนใช้เวลาคนละประมาณ 15 นาที จากจุดรายงานตัวจุดแรก

“ช่วงวันแรกคาดว่าจะมีประชาชนเข้ารับเสื้อประมาณ 50,000 ราย แต่ภายใน 1 ชั่วโมง จะสามารถรองรับประชาชนผู้เข้ารับเสื้อได้ประมาณ 15,000 คน แต่ถ้าประชาชนมามากกว่านั้น เราก็สามารถอำนวยความสะดวกให้ได้ นอกจากนี้ เราก็ยังมีร้านค้าธงฟ้า ธงน้ำเงิน มีอาหารเครื่องดื่มบริการประชาชน คิดว่าประชาชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะแขกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้รับความสุข ความสะดวก บรรยากาศทั้งวันนี้และวันพรุ่งนี้จะมีแต่ความคึกคักขึ้น เพราะมีจุดที่ให้ประชาชนผ่อนคลาย อยากเรียนว่าเราเกิดเป็นคนไทย เป็นคนที่โชคดีที่สุดที่มีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความรัก และทรงปรารถนาดีต่อประชาชนชาวไทย กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นกิจกรรมพระราชทานอันเป็นของขวัญจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าคนไทยทุกคนที่มีโอกาสเข้าร่วมและติดตามกิจกรรมไบค์ อุ่นไอรัก จะเพิ่มพูนความผูกพันใกล้ชิดระหว่างประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มากขึ้น” พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนทยอยเดินทางมารับเสื้อพระราชทาน ตั้งแต่ช่วง 05.00 น. โดยเมื่อผ่านจุดคัดกรอกต่างๆ จะต้องรับพระราชทานเสื่อภายในสนาม ซึ่งผู้ชายต้องโค้ง 1 ครั้ง ก่อนจะเอางานด้วยมือขวา และโค้ง 1 ครั้ง ผู้หญิงให้ถอนสายบัว เอางานด้วยมือขาวจากนั้นถอนสายบัวอีกครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

นายคุณกร ธรรมาพฤทธิ อายุ 38 ปี กล่าวว่า ตนได้รับเสื้อพระราชทานเป็นกลุ่มแรก เดินทางมาถึงสนามศุภชลาศัยตอน 06.30 น. มาปฎิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ถือว่าสะดวกมาก ปกติตนปั่นจักรยานอยู่แล้ว ปั่นมา 4-5 ปี แล้ว ร่วมมาทุกกิจกรรม Bike for Dad ก็มา จึงมาอยากมาร่วมกิจกรรม ไบค์อุ่นไอรักด้วย

โดยจะมาร่วมกิจกรรม ก่อนร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานวันจริง ซ้อมปั่นจักรยานทุกวัน แนะนำผู้ที่จะร่วมกิจกรรมมาให้ซ้อมปั่น ออกกำลังกายก่อนสัก 1 อาทิตย์ จากนั้นวันจริงหากใครมีโรคประจำตัวให้เตรียมยาของตนเองมาด้วยเพื่อฉุกเฉิน ตนรู้สึกมีความสุขมากที่พระองค์ท่านจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้น ดีใจมากๆ

นางปวันรัตน์ ทวีทรัพย์ อายุ 41ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมารับเสื้อพร้อมครอบครัว สามีและลูกชายอายุ 9 ปี ซึ่งลงทะเบียนปั่นไว้ในจุดแรก ระยะทาง 16 กิโลเมตร วันนี้มาถึงที่สนามศุภชลาศัยตอน 07.30 น. ผ่านขั้นตอนต่างๆ เข้ามารับพระราชทานเสื้อใช้เวลาไม่นาน สะดวกสบายมากๆ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือดีมาก

โดยการร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานตนกับสามีจะเป็นผู้ปั่น และเอาลูกนั่งซ้อนท้าย เพราะกลัวน้องจะปั่นไม่ไหว ครั้งก่อนๆ ที่มีกิจกรรมตนก็มาร่วมปั่นด้วยทุกปี เอาลูกซ้อนท้ายมาทุกปี ปีที่จัด Bike for Dad ไม่ได้ลงทะเบียนก็ปั่นตามหลังขบวนไป ดีใจมากที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นอีก ชอบมาก ลูกชายก็ถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะจัด ปีนี้เราลงทะเบียนทัน ลูกก็ลงทะเบียนด้วยดีใจมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 09.19 น. มีผู้มาลงทะเบียนรับเสื้อแล้วกว่า 8,700 คน โดยจะเปิดให้รับเสื่อพระราชทานถึงเวลา 18.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน