กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการ “ชัยยะสยบไพรี 60/1” ซึ่งสามารถจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา และเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งแถลงผลการตรวจค้นเป้าหมาย 36 จุด ของเครือข่ายดังกล่าวด้วย โดยมีมูลค่าทรัพย์ที่ยึดอายัดได้เบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว ปส.แถลงผลจับเครือข่าย “ไซซะนะ” เจ้าพ่อค้ายา ยึดทรัพย์กว่า100ล้าน เร่งล่าอีก5ร่วมขบวนการ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.เอกราช ปริยกรกร พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน และตรวจสอบทรัพย์สิน บช.ปส. นำตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 41 ปี ชาว สปปล. ผู้ต้องหาคนสำคัญคดียาเสพติด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 กันยายน 59 – 21 มกราคม 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศ สปปล.เข้ามาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ และประเทศมาเลเซียโดยมีผู้ต้องหานี้เป็นนายทุนจัดหายาเสพติดให้จนเจ้าหน้าที่สืบทราบ จนติดตามจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาที่ลักลอบนำยาบ้าจำนวน 1.2 ล้านเม็ดมูลค่า 120 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ในช่องดัดแปลงใต้หลังคารถยนต์ตู้ ทะเบียน ฮค 1931 กรุงเทพมหานคร จากสปป.ลาว มาจนถึงบริเวณด่านตรวจ ยาเสพติด อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เตรียมไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลอาญาที่ 5/2560 ลงวันที่ 9 มกราคม 2560 กระทั่งวันที่ 19 มกราคม 2560 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะเดินทางจากจ.ภูเก็ต แจ้งข้อหาดำเนินคดี สมคบกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่มีการสมคบกัน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ และรวบรวมพยานหลักฐานอื่นเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ 12 วันตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม- 3 กุมภาพันธ์

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้มีเครือข่ายใหญ่พัวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จำนวนหลายล้านเม็ด และเป็นเครือข่ายที่มีทรัพย์สินที่ต้องตรวจสอบขยายผลถึงผู้บงการ รวมทั้งคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้รับการประกันอาจจะหลบหนียากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดี

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน