กาฬสินธุ์เกิดเหตุสุดสลดใจ คนร้ายดักฆ่าแม่ม่ายลูกสาม ขณะรถจักรยานยนต์กลับบ้านพร้อมลูกสาววัย 4 ขวบ ตรงคลองชลประทานเข้าหมู่บ้านสภาพศพถูกทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิต ส่วนลูกสาวก็ถูกตีเข้าที่ศีรษะและถูกโยนลงท้องนา แต่พลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์มาได้ยินเสียงช่วยไว้ได้ทัน ด้านตำรวจตั้งปมฆ่าชิงน้ำทำนาปรังเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ 7 วัน มีปากเสียงกับเพื่อนบ้าน พร้อมตั้งประเด็นชู้สาวเนื่องจากผู้ตายถึงแม้เป็นแม่ม่ายแต่ก็มีหน้าตาดีเป็นที่หมายปองของหนุ่มทั่วไป

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มกราคม 2560 พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ชีพ 1669 โรงพยาบาลกมลาไสย ว่าพบศพหญิงนอนเสียชีวิตในสภาพที่บริเวณใบหน้าและศีรษะถูกทุบจนเสียชีวิต และยังพบ เด็กหญิงที่ถูกทำร้ายร่ายกายสภาพอาการสาหัส คาดว่าจะเป็นบุตรของผู้ตาย ซึ่งมีพลเมืองดีช่วยเหลือไว้ จึงได้รายงานไปยัง พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กมลาไสย เพื่อรายงานไปยัง พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ

ที่เกิดเหตุอยู่ติดกับถนนสายยางตลาด-ร่องคำ ปากทางเข้าบ้านสว่าง หมู่ที่ 9 ตำบลหลักเมือง อำเภอกมลาไสย เจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ สภาพศพที่บริเวณใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนเสียชีวิต ห่างไปพบ รถจักรยานยนต์ สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าคาดขาว ตกอยู่ในคลองชลประทาน บริเวณตัวถังรถเต็มไปด้วยรอยเลือด จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ตาย คือ นางปวีณา ภูมีสวย อายุ 35 ปี อยู่หมู่ที่ 9 บ้านสว่าง ตำบลหลักเมือง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนเด็กหญิง ทราบชื่อคือ ด.ญ.อภิญญา อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ตาย ถูกตีอย่างโหดร้ายก่อนโยนลงไปในโคลนริมทุ่งนา โดยทีมกู้ชีพโรงพยาบาลกมลาไสยกำลังช่วยชีวิต แต่เนื่องจากอาการสาหัสได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด


จากการสอบถามนายทนงค์ กุดวิฬา อายุ 24 ปี อยู่หมู่ที่ 7 บ้านราษฎร์ ตำบลหลักเมือง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์คนแรก เล่าว่า ในช่วงเวลาประมาณ 03.30 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะออกจากหมู่บ้าน ซึ่งต้องผ่านบริเวณจุดนี้ร่วมกับแฟนสาว จนมาถึงที่บริเวณเกิดเหตุปรากฏว่ารถน้ำมันหมด จึงจอดอยู่บริเวณศาลา แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้อยโหยหวนเหมือนจะเป็นเสียงแมว แต่ก็เหมือนกับเด็กทารก จึงได้ใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดูไปรอบๆ จนส่องไปที่บริเวณคันนา ซึ่งมีโคลนตมก็ปรากฏเห็นเด็กผู้หญิงนอนอยู่ในสภาพนอนหงาย โดยที่น้ำกำลังจะท่วมจมูก จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือและได้นำขึ้นมาเช็ดตัว

ซึ่งระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นที่บริเวณศีรษะของเด็กบวมโตจึงได้แจ้งไปยัง 1669 โรงพยาบาลกมลาไสย ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้มา ตอนแรกคิดเพียงว่าคงมีคนทำร้ายเด็กและนำมาทิ้ง แต่ระหว่างที่รถกู้ชีพกำลังจะเดินทางกลับ แสงไฟหน้ารถก็สาดไปเห็นศพหญิงที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม หน่วยกู้ชีพจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยยังพบรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งลงในคลองชลประทานอีกด้วย








Advertisement

เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพเป็นชาวนาและในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับชาวนาด้วยกัน จากปัญหาการแย่งชิงน้ำทำนาปรัง เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เปิดปิดน้ำ จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีความแค้น จนมาในช่วงเย็นที่คาดว่าผู้ตายอาจจะเข้ามาเปิดน้ำเข้าพื้นที่นาโดยมากับลูกสาว จึงมาดักตีเข้าที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิต ส่วนบุตรสาวผู้ตายก็ถูกตีและอาจจะคิดว่าเสียชีวิตแล้วจึงได้โยนร่างลงไปบริเวณคันนาที่มีน้ำและโคลน

ทั้งนี้มีรายงานว่า เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กมลาไสย นายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย พร้อมชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ เบื้องต้นทราบว่า สายสืบได้ทำการจับกุมตัวชาวนาผู้ต้องหาเอาไว้แล้ว 2 คน ทั้งนี้เนื่องจากผู้ตายหน้าตาดีในการสืบสวนทราบว่ามีคนมาติดพันผู้ตาย จึงได้ตั้งปมการตายแยกเป็น 2 กรณี คือ 1.เรื่องฆ่าชิงน้ำทำนาปรัง 2.ชู้สาว ซึ่งตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน