ยึดเบนซ์ฝาแฝด ลูก‘พล.ร.อ.’ ร้องกองปราบ โดนสวมทะเบียน มึนจู่ๆโดนใบสั่ง ส่งถึงบ้าน 4 ใบรวด ทั้งที่ไม่เคยทำผิด ด้านหนุ่มคู่กรณี ให้การเป็นรถเพื่อน ซื้อมาจากเพจขายรถราคาถูก ตนเองแค่ยืมมาขับ ตร.เตือนระวัง ของดี ของถูก ไม่มีในโลก

ยึดเบนซ์ฝาแฝด / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1บก.ป. พ.ต.ต.พลปพัฒน์ ภู่พูลทรัพย์ สว.กก.1บก.ป. ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา นรสาร รองสว.กก.3บก.ป. ร.ต.อ.ฉัตรชัย เหมวิลัย รองสว.กก.1บก.ป. และเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปจร.ก.)

แถลงข่าวผลการตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น อี 250 ซีดีไอ คูเป้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญว 65 กทม. ซึ่งเป็นรถแฝดผิดกฎหมาย ที่สวมทะเบียนและกระทำความผิดกฎหมายจราจร สร้างความเสียหายให้แก่ เจ้าของรถยนต์ตัวจริง

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.ช่อทิพย์ สักกวาที ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พล.ร.อ.ชลิษฐ์ สักกวาที บิดา เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ กรณีตนเองถูกใบสั่งจราจร จำนวน 4 ใบ ส่งมาที่บ้าน ระบุรุ่นรถ สี และทะเบียนตรงกัน

โดยเชื่อว่า น่าจะมีผู้เอาแผ่นป้ายทะเบียนของตนไปสวมรถยนต์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน เพราะไม่เคยทำความผิด ตามใบสั่งจราจรแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเดือดร้อน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

กองปราบตามเจอจอดร้านอาหาร

ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า รถดังกล่าวได้ไปจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านเรือนพระยา ถ.เลียบทางด่วน-รามอินทรา ซ.ประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว

จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบนายวัฒน์ แซ่อู๋ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555/101 ถ.ประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง แสดงตนเป็นเจ้าของรถ จึงเชิญตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นให้การว่า รถคันดังกล่าวเป็นของเพื่อนตน ซื้อมาจากเพจขายรถยนต์แห่งหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งได้ยืมมาขับเป็นการชั่วคราว แต่นายวัฒน์ไม่สามารถนำเอกสาร สำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถมาแสดงความเป็นเจ้าของได้

เจ้าหน้าที่จึงอายัดรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ พบว่าแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี มีการดัดแปลงเลขตัวถังรถ โดยมีร่องรอยของการขูดขีด หลังจากนี้จะส่งรถที่ตรวจยึดมาได้ ให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ รวมทั้งขยายผล ว่ารถคันดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ซึ่งหากพบว่ามีการปลอมแปลงแผ่นป้าย แสดงการเสียภาษีประจำปี ผู้ครอบครองรถจะต้องถูกดำเนินคดี ฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้จะสอบสวนขยายผล หากพบว่ามีข้าราชการในสังกัดใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น

เตือนของดี ของถูก ไม่มีในโลก

พ.ต.ต.พลปพัฒน์ กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชน ที่มีความต้องการในการซื้อรถยนต์ ทั้งจากเต็นท์รถมือสอง หรือทางอินเตอร์เน็ต จะต้องมีการตรวจสอบตัวรถจริงโดยเฉพาะเลขตัวถังรถ เลขเครื่องยนต์ ว่ามีการดัดแปลงขูดลบแก้ไขหรือไม่

พร้อมทั้งนำไปตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนเบื้องต้น กับกรมขนส่งทางบกด้วย ว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนจะตกลงซื้อขายกัน ซึ่งการที่รถที่ซื้อมานั้น หากไม่สามารถจดทะเบียน หรือต่อภาษีผ่านตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการที่ถูกต้อง ได้ด้วยตนเอง ก็ขอให้พึงระวัง อยากให้ประชาชนตระหนัก ถึงความน่าจะเป็นว่าของดี ของถูก ไม่มีในโลก

ขณะที่พล.ร.อ.ชลิษฐ์ กล่าวว่า ตนซื้อรถคันนี้ จดทะเบียนในชื่อน.ส.ช่อทิพย์ สักกวาที บุตรสาวของตน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในราคา 4 ล้านบาท ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ ว่ามีการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งวันเวลาดังกล่าว ไม่ได้ไปที่เกิดเหตุที่โดนใบสั่ง จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.สามเสน พร้อมระบุให้เจ้าหน้าที่ทราบชัดเจนว่า

พล.ร.อ.พ่อเจ้าของรถเผยถูกใบสั่ง 4 ใบ

รถคันดังกล่าวที่กระทำความผิดไม่ใช่ของตน ซึ่งความแตกต่างแม้จะรถยี่ห้อเดียวกัน หรือสีเดียวกัน ป้ายทะเบียนเดียวกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงป้ายทะเบียน ที่รถของตนจะมีกรอบป้ายสีเงิน แต่อีกคันของผู้ต้องหาจะมีสีดำ

นอกจากนี้ลักษณะบางอย่างยังไม่ตรงกัน เช่นไฟเดย์ไลท์ หรือเบาะคนขับ ซึ่งน่าจะเป็นการตั้งใจสวมทะเบียน และนำไปกระทำความผิด ตน จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

พล.ร.อ.ชลิษฐ์กล่าวอีกว่า ต่อมาตนก็ได้รับใบสั่งอีกในวันที่ 3 ก.ย. ว่าตนขับรถทับเส้น และยังมีใบสั่งส่งมาอีก 2 ใบในวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งตนได้ลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย จึงได้มาร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม

อย่างไรก็ตามหลังทราบว่า กองปราบปรามได้ยึดรถฝาแฝดของตนได้ ก็รู้สึกโล่งใจและขอขอบคุณที่ช่วยคลี่คลายคดีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน