ลูกชายยายติ๋ม เหยื่อไอ้เบนซ์ฆ่า เปิดใจทั้งน้ำตา รับแค้นมาก ชี้เหตุไม่ใช่เพราะทิ้งขยะ

จากกรณีคนร้ายเป็นชายอายุ 17 ปี หรือคนในชุมชนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เรียกว่า “ไอ้เบนซ์” นักเลงขาใหญ่ประจำซอย ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางวนิดา แพนุ่น อายุ 62 ปี หรือยายติ๋ม เจ้าของร้านขายของชำ ภายในชุมชนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น จนเสียชีวิต ก่อนนำศพยายติ๋ม มาทิ้งไว้ริมถนน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.2561 นายนฤดล แพนุ่น อายุ 32 ปี ลูกชายยายติ๋ม ได้เข้ามาที่ร้านของยายติ๋ม เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน และการร่วมพูดคุยกับคนในชุมชนเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเตรียมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยนายนฤดล กล่าวว่า โดยปกติแล้วไม่ได้อาศัยอยู่กับมารดา เพราะต้องทำงาน หลังจากบิดาเสียชีวิต มารดาก็มาเช่าที่ริมถนนเทพารักษ์ เพื่อขายของชำ เล็กๆ น้อยๆ มาเป็นเวลาประมาณ 30 ปีแล้ว ส่วนตนมีพี่สาวรับราชการอยู่ต่างพื้นที่ โดยแวะเวียนมาเยี่ยมมารดาบ้าง รวมทั้งให้เงินทองกับมารดาใช้จ่ายตามสมควร ยืนยันว่ามารดาและครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใคร

แอดไลน์ข่าวสดไม่พลาดทุกเหตุการณ์เพิ่มเพื่อน

“หลังเกิดเหตุผมได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และวันเดียวกันได้กลับมาที่ร้านของคุณแม่ ซึ่งพบสิ่งของตก พัดลมล้ม แต่ผมยังคงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะต้องรับศพคุณแม่นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน ที่ อ.มัญจาคีรี

แต่ด้วยความสงสัยจึงย้อนกลับมาตรวจสอบรายละเอียดต่างๆที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการที่คุณแม่ที่ถูกทำร้าย ซึ่งได้รับความร่วมมือกับคนในชุมชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพลเมืองดีที่ให้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิด จึงพบว่าคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้ายร่างกายอยู่ข้างถนน ขณะนำขยะไปทิ้ง และพากันเดินเข้าไปในชุมชนเทพารักษ์

นาทีไอ้เบนซ์ตบยาย

ซึ่งในชุมชนเทพารักษ์ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้พยายามสอบถามจากคนในชุมชน จึงทราบว่าหลังจากที่คุณแม่เปิดร้านในช่วงเช้าตรู่ โดยได้นั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าร้าน นายเบนซ์เดินเข้ามาพูดคุยและมีการยื้อแย่งกันอยู่หน้าร้านจนสิ่งของตกหล่น พัดลมล้ม

จากนั้นนายเบนซ์ ก็เดินออกจากร้านไป คุณแม่จึงเก็บกวาดสิ่งของที่ร้าน และนำขยะไปทิ้ง จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมา คือคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้าย ตามรายละเอียดในคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในสื่อมวลชน”

นายนฤดล กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าคุณแม่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกนำร่างมาทิ้งไว้ริมถนน ซึ่งมีสภาพเลือดไหลออกปาก จมูก ใบหน้าบวมปูด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้นำร่าง ส่ง รพ.ศูนย์ขอนแก่น ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสภาพศพของแพทย์พบว่า ซี่โครงหักหลายซี่ กะโหลกศีรษะด้านซ้ายแตกร้าว สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ และสร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์ที่คุณแม่สวมใส่ประจำได้หายไป เหลือเพียงแหวนพระที่นิ้วมือเท่านั้น

ลูกชายปาดน้ำตา

“จากการสอบถามคนในชุมชนและคนที่เห็นเหตุการณ์ทำให้ทราบข้อมูลอีกว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าวันดังกล่าว นายเบนซ์มาทวงถามเอาเงินกับคุณแม่จำนวน 10,000 บาท เนื่องจากนายเบนซ์ไปขอเงินยายตัวเอง แต่ยายของนายเบนซ์ไม่มีให้ พร้อมบอกว่าให้คุณแม่ของผมยืมไปหมดแล้ว

นายเบนซ์ จึงเดินไปทวงเงินกับคุณแม่ที่ร้านขายของ จนมีปากเสียงกัน จากนั้นเมื่อนายเบนซ์เห็นคุณแม่เอาขยะไปทิ้งก็เข้ามาต่อว่าและทำร้ายร่างกาย จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในชุมชน ซึ่งเชื่อว่าคุณแม่ต้องการเคลียร์เรื่องเงินที่นายเบนซ์ทวง

นอกจากนี้ ยังคงมีพยานซึ่งเห็นเหตุการณ์ที่บ้านนายเบนซ์ ที่ระบุว่าคุณแม่ถูกนายเบนซ์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และสาเหตุไม่ได้เกิดจากการที่แม่นำขยะไปถึงแต่อย่างใด

ผมยอมรับว่าขณะนี้มีความโกรธแค้นอย่างมาก แต่เมื่อมีเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ก็รู้สึกดีขึ้น ลดความโกรธแค้นลงได้บ้าง เพราะทำให้เชื่อมั่นว่า กฎหมายยังมีอยู่จริง แต่หากกฎหมายทำอะไรไม่ได้ ผมก็อยากจะทำเหมือนที่ผู้ก่อเหตุทำขึ้นเหมือนกัน เพราะแม่ใครใครก็รัก”

ชุมชนเทพารักษ์

ขณะที่ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น ได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายเบนซ์แล้ว ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้พบตัวหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวมาสอบสวนและกันเป็นพยาน เพราะเป็นเพียงผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ร่วมลงมือทำร้ายผู้ตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน