เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษดา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานลงนามร่วมกับ 18 หน่วยงานภาครัฐ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการนำร่องการดำเนินการตามแนวทางการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ เพื่อบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ ตามนโยบายรัฐบาลและแผนพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 เห็นชอบแนวทางการดำเนินการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ให้ใช้ประโยชน์จากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อให้งานบริการของรัฐในด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นให้กับผู้ขอใช้บริการ และเพื่อตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในภารกิจการจัดทำบัตรประชาชน มีความพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการใช้ประโยชน์จากเลข 13 หลักดังกล่าว และเห็นว่าความร่วมมือในการบูรณาการข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน และนำไปสู่การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับสาระสำคัญและแนวทางการดำเนินงานของ MOU ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ทั้ง 19 หน่วยงาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนา และปรับปรุงระบบงานบริการของหน่วยงาน ตลอดจนผลัดันให้เกิดการพัฒนาของระบบ Digital Government ภายใต้นโยบาย Digital Economy หรือ เศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้อินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงงานบริการของรัฐได้อย่างรวดเร็วขึ้น

“จะมีการปรับปรุงการบริการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียว และขยายผลไปสู่การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือศูนย์บริการร่วมต่างๆ ในอนาคตตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีการแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง เช่น ข้อมูลบริการจัดหางาน ข้อมูลบริการรับสมัครนักเรียนระดับประถมศึกษา ข้อมูลเกษตรกร เป็นต้น 2.กลุ่มปรับปรุงระบบงานให้รองรับการใช้บัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ใบเดียว จากประชาชนที่มาติดต่อ เช่น การรับแจ้งความเอกสารหาย การให้บริการข้อมูลสภาวะสุขภาพ และการให้บริการของที่ทำการไปรษณีย์ 3.กลุ่มการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ (OSS) ผ่านศูนย์บริการร่วม หรือผ่านระบบออนไลน์ เช่น การให้บริการขอใช้น้ำประปา ไฟฟ้า และโทรศัพท์ ตลอดจนการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์บริการร่วมอื่นๆ” นายกฤษดา กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน