ไม่เผาลูก! แม่ติดใจผลชันสูตร น้องต้าแง ส่งศพไปผ่าพิสูจน์อีกรอบ

จากคดี น้องต้าแง เด็กชายชาวเมียนมา วัย 2 ขวบ 1 เดือน ได้สูญหายไปเป็นเวลากว่า 9 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในไร่อ้อย ม.9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และสุดท้ายพบว่าเสียชีวิตแล้วในสภาพเน่าเปื่อย โดยพ่อแม่เชื่อมีคนทำให้ลูกชายเสียชีวิต ขณะที่ผลชันสูตรศพไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่สภ.สระยายโสม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาพบ พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมพูดคุยกับ นายผิว อายุ 26 ปี และนางมอ อายุ 20 ปี พ่อและแม่ของน้องต้าแง หลังจากทราบผลชันสูตรของนิติเวช รพ.ตำรวจ แล้วนั้น

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ภายหลังจากการทราบผลชันสูตร ตนไม่เชื่ออย่างแน่นอน จึงได้ปรึกษากับทางทีมแพทย์นิติเวชท่านหนึ่ง ได้ดูสภาพศพแล้ว ซึ่งทีมแพทย์ชี้แจงว่า หากเกิดจากเสียชีวิตตามธรรมชาติคือ ขาดน้ำขาดข้าว หากมีหนูแทะจริง ขาก็อาจจะไม่ขาดขนาดนี้ คาดน่าจะถูกของแข็งทำให้ขาขาด เพราะเนื้อเยื่อขายังไม่เน่า จึงเชื่อว่าขาไม่น่าจะขาดได้ หากตายธรรมชาติจริง ทำไมไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าออกมาตั้งแต่ตอนแรก ทำไมถึงเพิ่งมีกลิ่นในช่วง 8-9 วันสุดท้าย หรือหากจะเสียชีวิตก่อนหน้านี้ทำไมพื้นที่บริเวณที่พบศพถึงไม่มีหนอนหรือร่องรอยบ้าง

จึงสันนิษฐานว่าอาจจะมีคนทำร้ายน้องจนเสียชีวิตแล้วนำร่างมาทิ้งไว้ เพราะในช่วงของการหาน้องต้าแงก็ได้มีบุคคลอื่นเข้าออกตลอดซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ทราบหรือรอดสายตาไปบ้าง และไม่เชื่อว่า น้องต้าแง จะสามารถเดินไปยังจุดพบศพได้ถึง 5 กิโลเมตร

ทนายรณรงค์ กล่าวอีกว่า ยังไม่ได้ปรักปรำหรือสงสัยว่าใครเป็นคนทำ โดยหลังจากนี้จะขอข้อพิสูจน์ว่าน้องต้าแงไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ และเมื่อทราบแล้ว ก็จะติดตามผู้ที่ต้องสงสัยต่อไป โดยครอบครัวไม่เชื่อ จึงอยากจะให้กระทรวงยุติธรรมนำร่างกลับไปชันสูตรใหม่ โดยจะขอทางผลอย่างเป็นทางการจากนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจก่อน ซึ่งขณะนี้กังวลว่าจะมีหลักฐานบางอย่างขาดหายไป อาจจะทำให้มีผลต่อการสืบหาข้อเท็จจริง จึงอยากให้คนที่ทราบเรื่องราวเข้ามาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ความชัดเจนมันกระจ่างยิ่งขึ้น

ด้านนางมอ กล่าวว่า ยืนยันลูกชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอย่างแน่นอน โดยตนติดใจว่าในครั้งแรกที่พบศพลูกชาย ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่อนุญาตให้เข้าไปดูศพลูกตั้งแต่ตอนแรก ตนจะได้ทราบว่าลูกตายในท่าไหนหรือตายยังไง ทั้งที่ตนเป็นแม่ ในวันที่ลูกชายหายตัวไป ตนได้สันนิษฐานไว้ก่อนแล้วว่าลูกอาจจะถูกลักพาตัวถูกฆาตกรรม ทำให้เสียชีวิตแล้วนำศพไปอำพรางแต่ยังหาศพไม่เจอ และตนก็ไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย และอีกใจหนึ่งก็อยากให้มีปฏิหาริย์เกิดขึ้น

นางมอ กล่าวอีกว่า ยังคิดว่าลูกชายอาจเสียชีวิตจากรถไถ เพราะในวันที่ลูกชายหายตัวไป คนขับรถไถก็ไม่อยู่และรถก็ไม่อยู่ที่บ้าน ซึ่งแปลกจากปกติและ คนขับรถไถก็ได้เปลี่ยนใบผลานไถ ตรงกับวันที่ลูกชายหายไปพอดี หลังจากเปลี่ยนใบผลาน ก็ไม่เคยเห็นคนขับรถไถอีกเลย และจากการสัมภาษณ์ของคนขับรถไถที่ชี้แจงว่าได้เข้ามาช่วยเหลือในการค้นหาลูกชายนั้น ตนไม่เคยเห็นและคนขับรถไถก็ไม่เคยมีการเข้ามาพูดกับตนแม้แต่ครั้งเดียว โดยยืนยันว่าทางครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใครในพื้นที่แน่นอน

“ครอบครัวจะยังไม่เผาศพน้องต้าแง และจะทำเรื่องส่งสถาบันนิติเวชกระทรวงยุติธรรม เพื่อชันสูตรหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียกอีกครั้ง โดยจะนำศพส่งไปชันสูตรภายในคืนนี้”นางมอกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน