7 วันอันตราย วันที่ 2 ตาย-เจ็บ พุ่ง ดับนับร้อยราย เจ็บทะลุหลักพัน เมาขับเป็นเหตุ!

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติทางถนน (ศปภ.)ประจำปี 2562 ว่า โดยสถิติวันที่ 2 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยการจราจร” พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

อ่าน เริ่มแล้ว 7 วันอันตราย วันแรกดับ 42 ศพ ยอดตาย-อุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

โดยในปีนี้มีผู้เสียชีวิต 56 ราย บาดเจ็บ 592 คน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 570 ครั้ง ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุคือ เมาสุรา ร้อยละ 38.95 และขับรถเร็วเกิดกำหนด ร้อยละ 28.60 ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 76.68 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง

ทั้งนี้ ในวันแรกของเทศกาลวันที่ 28 เกิดอุบัติเหตุ 420 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 42 ราย ผู้บาดเจ็บ 432 คน รวม 2 วัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 98 ราย บาดเจ็บ 1,024 ราย เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 990 ครั้ง

โดยช่วงเวลาสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุ คือ 16.01-20.00 น. ขณะที่จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 19 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ เชียงใหม่ 4 ราย และสมุทรปราการ 4 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ นครราชสีมา 20 คน ส่วนสรุปยอดรวมอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน (27-28 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุรวม 990 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 98 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,024 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 31 จังหวัด

ภาพอุบัติเหตุที่ จ.ลำปาง

นายอาคม กล่าวว่า ศปภ.ได้เน้นย้ำจังหวัดให้ดูแลใน เรื่องการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในการเดินทางออกต่างจังหวัด โดยทางถนน กระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับตำรวจทางหลวงและกระทรวงมหาดไทยในการอำนวยความสะดวกและจัดรถบขส.และรถร่วมให้บริการอย่างเพียงพอ ทำให้สามารถส่งประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 26-29 ธันวาคม ได้ประมาณ 410,000 คน แล้ว

โดยในวันนี้(29 ธ.ค.) คาดว่าจะยังมีประชาชนเดินทางในช่วงเช้าไปยังจังหวัดภาคกลางและจังหวัดใกล้เคียง ขณะที่การอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางทั้งทางหลวง และทางพิเศษ สามารถระบายรถได้ตามที่วางแผนไว้ โดย 2 วันที่ผ่านมามีปริมาณรถออกจากกรุงเทพมหานครไปแล้ว ประมาณ 1.6 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 หมื่นคัน หรือร้อยละ 0.6

ไม่พลาดทุกข่าวสาร @แอดไลน์ข่าวสดเพิ่มเพื่อน

ซึ่งในวันนี้(29 ธ.ค.) ยังคงมีรถออกจากกรุงเทพมหานคร ในเส้นทางวิภาวดี พหลโยธิน ในปริมาณมากจึงได้เปิดช่องทางพิเศษ ปิดทางยูเทิร์น ทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ รวมถึงการคืนพื้นที่ในการก่อสร้างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อขยายช่องทางการเดินทางโดยกำชับให้ผู้รับเหมาเตรียมความพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุด้วย

นายอาคม กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการความปลอดภัย ศปภ.ได้กำหนดโซนสี เหลือง เขียว แดง และกระทรวงคมนาคมได้กำหนดเส้นทางเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 88 เส้นทาง ที่พบว่ามีอุบัติเหตุน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งจุดตรวจคุมเข้มทั้งหมด 714 จุด

ภาพอุบัติเหตุที่ จ.เชียงใหม่

โดยเฉพาะทางขึ้นลงเขา ทางตรง และทางร่วม ซึ่งได้เพิ่มจุดพักรถ รถตรวจการเปิดไฟสัญญาณเพื่อชะลอความเร็วของรถ และการขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกงดวิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเปิดทางให้รถส่วนบุคคลที่เดินทางในต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดำเนินการทั้ง 365 วันไม่ใช่แค่ช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งตนได้ตรวจราชการอยู่เป็นประจำ รวมถึงวิเคราะห์จุดเสี่ยง ติดตั้งป้ายบอกสัญญาณ การเพิ่มไหล่ทาง และแก้ไขจุดเกิดเหตุทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน