วันที่ 31 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคสช. เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ว่า ที่ประชุมคสช.ได้หารือสรุปสถานการณ์ความมั่นคงทั่วไป และการกำหนดแนวทางที่จะออกคำสั่งตามมาตรา 44 เกี่ยวกับการปฏิรูปหรือการพัฒนาระบบงานของตำรวจ โดยหลักการเพื่อป้องกันและแก้ไขไม่ให้มีการทุจริต วิ่งเต้นหรือซื้อขายตำแหน่ง โดยใช้แนวทางของกองทัพมาเป็นหลัก

โดยให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละระดับชั้นให้มีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไปตามระดับ และอำนาจสูงสุดคือผู้บังคับชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับแนวทางเพื่อไปดำเนินการออกเป็นเป็นคำสั่งตามมาตรา 44 ต่อไป มีหลักการกติกา และเมื่อขั้นตอนชัดเจนจะไม่เป็นปัญหาเหมือนในอดีตที่ผ่านมาเหมือนที่ฝ่ายการเมืองยังอยู่ และมีการสั่งการในเรื่องนี้ลงไป จึงต้องหาแนวทางและสร้างระบบที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันข้อครหา มีการพัฒนาและปฏิรูปงานของตำรวจให้ดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดเพราะยังเป็นเรื่องของตัวบุคคลผู้มีอำนาจหน้าที่ว่ารู้จักหน้าที่ของตัวเองดีแค่ไหน ส่วนตัวคำสั่งดังกล่าวยังไม่ออกมาในขณะนี้

“ที่จริงตำรวจมีกลไกบังคับอยู่ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อธิบายว่าสมัยก่อนมีบอร์ดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพียงอย่างเดียว แต่สมัยนี้ต้องการให้มีคณะกรรมการบริหารเป็นลำดับไป เหมือนกองทัพเวลาแต่งตั้งผู้บัญชาการกองพล รับผิดชอบแต่งตั้งภายในกองพล ทั้งผู้การ ผู้พัน ผบ.ทบ.แต่งตั้งแม่ทัพภาค เป็นต้น จึงอยากให้มีแนวทางแบบนี้เพื่อมีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน และผู้บังคับบัญชาการสามารถเลือกบุคคลว่าใครจะมาทำงานด้วย ส่วนรายละเอียดผู้ที่เกี่ยวข้องต้องไปเขียนให้ครอบคลุม ซึ่งทุกอย่างไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยจะช่วยให้ดีขึ้น” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน