เมืองคอนวิกฤตแล้ว! พิษ พายุปาบึก ซัดเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เผยศูนย์อพยพเต็ม เร่งหาที่รองรับประชาชนเพิ่มอีก ปริมาณน้ำทะลักท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่นำรถออกสำรวจผู้ตกค้างในพื้นที่เสี่ยง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พายุโซนร้อน “ปาบึก” อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงการขยายศูนย์อพยพหาที่รองรับผู้ประสบภัยเพิ่ม เนื่องจากประชาชน ได้ทยอยอพยพมาเพิ่มอีกจำนวนมาก

นายถาวรวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยิมวิทยาได้ประกาศเตือนว่า พายุปาบึก ใกล้ที่จะพัดเข้าฝั่งแล้ว ซึ่งเราเห็นได้ว่า ความรุนแรงแต่รัศมีนอก ยังทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่บ้างแล้ว หากพายุปาบึกพัดพามาแบบเต็มกำลัง จะสร้างความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งชาวบ้านก็ได้เห็นความรุนแรงของพายุปาบึก จึงได้ทยอยเดินทางมาที่ศูนย์อพยพเอง เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอมมา เพราะเป็นห่วงบ้าน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ เพิ่มเพื่อน

นายถาวรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราพบปัญหาจุดอพยพทุกจุดเต็ม จึงประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องขยายจุดอพยพ เพื่อจัดหาพื้นที่สำหรับรองรับประชาชน จึงได้มีการเปิดศูนย์อพยพขึ้นมาใหม่ ที่ศาลาประชาคม อ.ปากพนัง ซึ่งสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้ 400-500 คน ทั้งนี้ คาดว่ามีผู้ประสบภัยกว่า 4,000 คนแล้ว ที่อพยพออกมาจากนอกพื้นที่แล้ว เมื่อผู้ประสบภัยได้อพยพมาบริเวณศูนย์อพยพ ทางศูนย์ก็ได้มีครัวพระราชทานจิตอาสา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานไว้ให้กับผู้ประสบภัย ทำให้มีอาหารกินตลอด

“เรามีความกังวลใจตลอดเวลา จึงมีการประเมินเหตุการณ์กันทุกชั่วโมง และมีการช่วยเหลือ นำรถของเจ้าหน้าที่ไปวนดูผู้ตกค้างภายในหมู่บ้านที่สุ่มเสี่ยงตลอด เพื่อตรวจสอบว่า มีประชาชนหลงเหลืออยู่หรือไม่ ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวบ้านทราบว่า ส่วนใหญ่มีความกังวล เรื่องทรัพย์สินและบ้านเรือนว่าจะเกิดความเสียหาย เพราะไม่ทราบว่า พายุปาบึก จะรุนแรง เท่ากับ พายุเกย์หรือไม่” นายถาวรวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ได้อ่อนกำลังลง สภาพถนนบริเวณแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง มีต้นไม้ใหญ่หักลงมาขวางถนนสายหลัก นอกจากนี้ ยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงหักลงมาขวางถนนเส้นหลักที่ใช้สัญจรไปมาตลอดทั้งสาย ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ส่วนน้ำที่ทะลักท่วมเข้ามาในพื้นที่ปริมาณน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนต้องนำรถยนต์ของตนเองมาจอดไว้บนสะพานสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน