พายุปาบึก มาแล้ว! โจมตีปากพนัง ทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำไม่ยั้ง ต้นไม้โค่นล้มเกลื่อนถนน ไฟฟ้าดับ หลังคาหวิดปลิว ชาวบ้านผวา เผยรุนแรงเทียบแฮเรียต หนุ่มยะลาจิตอาส รุดช่วยชาวบ้าน ระบุมีแรงช่วยทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในฐานะคนไทยด้วยกัน
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่บริเวณถนนชายทะเลจาก อ.ปากพนัง ไป อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และทะเลมีคลื่นสูง 3-4 เมตร โดยบริเวณริมถนนมีต้นไม้หักโค่นตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากได้รับผลกระทบของ พายุปาบึก ที่กำลังพัดเข้าริมฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยบรรยากาศบนท้องถนนแทบจะไม่มีรถสัญจรไปมา ประชาชนต่างอพยพไปอยู่ยังที่ปลอดภัย ขณะที่อำเภออื่นๆ รับผลกระทบไม่แพ้กัน
ส่วนบรรยากาศที่โรงยิมเนเซียมเทศบาลเมืองปากพนัง ซึ่งเป็นศูนย์อพยพประชาชนจาก ต.แหลมตะลุมพุก และ ต.บางพระ จำนวนเกือบพันคนได้มารวมกันอยู่ที่นี่ ซึ่งผลจากลมแรงทำให้ไฟฟ้าดับ ทางเทศบาลเมืองปากพนังจะมีการใช้ไฟฟ้าสำรอง อย่างไรก็ตาม พบว่าประตูเหล็กของโรงยิมนั้น กำลังต้านลมที่กำลังพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ขณะที่หลังคาโดนลมจนเกิดเสียงดังและสร้างความหวาดผวาให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก
- อ่านข่าว : พายุปาบึก แผงฤทธิ์! ฝนถล่ม-ทะเลคลั่งซัดท่วมแหลมตะลุมพุก เผยกลัวการสูญเสีย
- อ่านข่าว : นครเริ่มอ่วม! ‘ปาบึก’ บุกหนักขึ้น ทำฝนถล่ม เร่งอพยพชาวบ้านริมเลให้หมด! (คลิป)
- อ่านข่าว : ศพแรกสังเวย พายุปาบึก เรือประมงอับปาง ปากอ่าวปัตตานี เร่งค้นหาผู้สูญหาย
นายดม ช่วยประดิษฐ์ อายุ 77 ปี ชาวแหลมตะลุมพุก กล่าวว่า ตนเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 2505 จากพายุแฮเรียต ถ้าเทียบความรุนแรงเกือบจะเหมือนกัน เพียงแต่สมัยก่อนบ้านเรือนสร้างแบบไม่แข็งแรง การสื่อสารการช่วยเหลือไม่เหมือนยุคนี้ แต่ความรุนแรงของลมของฝนน่ากลัวเหมือนกัน สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือบ้านช่องและทรัพย์สินและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ด้าน นางนับ บุญส่ง อายุ 81 ปี ชาวแหลมตะลุมพุก เล่าว่า ตนเคยเห็นตอนพายุแฮเรียตซึ่งมีความรุนแรงและน่ากลัวมาก ตอนนั้นการสัญจรเป็นเรือแจวเรือพาย เดินทางไม่สะดวกไม่ปลอดภัยเหมือนตอนนี้ แต่ถ้าเทียบความรุนแรงน่าจะไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อก่อนเสียหายมากเพราะบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างไม่ได้แข็งแรงเหมือนปัจจุบัน ตอนนี้ตนมาอยู่ที่ศูนย์อพยพแต่ใจเป็นห่วงบ้านที่ชายทะเล แต่เอาความปลอดภัยไว้ก่อน
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายดอเราะ กาเยะ อายุ 43 ปี ชาว อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า นายดอเราะเดินทางด้วยรถตู้โดยสารจากเบตง มาที่ศูนย์อพยพ อ.ปากพนังตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้มาช่วยเหลือชาวบ้านทุกอย่าง เก็บขยะและคอยบอกรถที่แล่นเข้าออกท่ามกลางสายฝนและลมแรงที่พัดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นคนที่มีจิตอาสาจนได้รับคำชื่นชมจากเจ้าหน้าที่อย่างมาก
นายดอเราะ กล่าวว่า ตนเห็นข่าวว่าพายุจะเข้าที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จึงนั่งรถตู้โดยสารมาจาก อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อจะมาช่วยชาวบ้านเท่าที่จะช่วยได้ ซึ่งเดินทางมาเสื้อผ้าชุดเดียว มาถึงเห็นชาวแหลมตะลุมพุกลำบากเลยไม่อยากกลับ จึงขอช่วยก่อน ช่วยทุกอย่าง เก็บขยะ โบกรถ จูงผู้เฒ่าผู้แก่เข้าห้องน้ำ เพราะตนคิดว่าตนมีแรงช่วยอะไรได้ก็อยากจะช่วยในฐานะคนไทยด้วยกัน
