จากกรณีนายอธิวัฒน์ ทองอ้น เลขานุการเอกอัครราชทูตภูฏาน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางซื่อ เพื่อให้ช่วยตามหานายฮาร์กา บาฮาดู ซับบา อายุ 39 ปี หนึ่งในคณะครูจากประเทศภูฏาน ที่เดินทางมาดูงานในประเทศไทย แล้วพลัดหลงจากคณะบริเวณหน้าโรงแรมย่านพหลโยธิน ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.60 เวลาประมาณ 06.30 น. ต่อมาทางคณะทูตภูฏาน ได้เดินทางไปยัง จ.สมุทรปราการ หลังทราบว่ามีคนพบเห็นนายฮาร์กา อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่ตามหาตัวนายฮาร์กา อยู่นาน กระทั่งได้รับการประสานจากโรงพยายาลสมุทรปราการว่า พบตัวนายฮาร์กาแล้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มูลนิธินำตัวมาส่งที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (31 ม.ค.) หลังชาวบ้านพบนายฮาร์กา นอนอยู่บริเวณเกาะกลางถนน หน้าร้านสุกี้เอเจ ถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในสภาพไม่มีเรี่ยวแรง จึงประสานมูลนิธิให้มาช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะนี้อาการปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์
โดยรายละเอียดนั้น เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พ.ต.ท.โสภณ ภูนุช รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากโรงพยาบาลสมุทรปราการว่า มีชายวัยกลางคนซึ่งสงสัยว่าจะเป็นอาจารย์ชาวภูฏานที่พลัดหลง มารักษาตัวที่ห้องอายุรกรรมชาย ชั้น 2 ตึก 5 ชั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบ กระทั่งแน่ใจว่าเป็นนายฮาร์กา บาฮาดู ซับบา วัย 40 ปี จึงรายงาน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ และพ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางมาเยี่ยม โดยพบว่ายังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในสภาพอิดโรย ร่างกายมีรอยขีดข่วนฟกช้ำ
พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 ม.ค. เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการรับแจ้งมีชายเร่รอนนอนหมดสติอยู่ข้างถนนหน้าร้านเจแอลสุกี้ ถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ รุดไปตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวนอนอยู่ แขนขวามีรอยถลอกและฟกช้ำ จึงนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แพทย์รักษาอาการเบื้องต้นจนหายก่อนนำมาพักฟื้น แต่ยังไม่สามารถสื่อสารกันได้ เนื่องจากนายฮาร์กาเป็นปราชญ์พื้นบ้าน มีถึง 9 สัญชาติ ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวต่อว่า ต่อมาทีมแพทย์สื่อสารในเบื้องต้นและเห็นภาพตามสื่อต่างๆ จนเชื่อว่าน่าจะเป็นนายฮาร์กาที่พลัดหลง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูอาการ เบื้องต้นอาการที่พบนั้นเกิดจากการอ่อนเพลีย เนื่องจากหายตัวไปหลายวัน ส่วนรอยขีดข่วนยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบาดแผลจากอะไร ถูกทำร้ายหรือไม่นั้น ต้องรอนายฮาร์กาฟื้นก่อน จึงจะสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงมีคำสั่งให้นำนายฮาร์กาไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่มีเครื่องมือทันสมัย ปลอดภัยกว่า และมีห้องพักแยกที่ชัดเจน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศ ขณะเดียวกัน ผมได้รายงานท่านเชวัง โชเฟล ดอร์จิ เอกอัครราชทูตภูฏาน ทราบแล้ว ท่านก็พอใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่ทำงานได้รวดเร็ว” พล.ต.ต.ธรรมนูญกล่าว
