เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 15 ก.พ. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเข้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดเปิดให้พุทธศาสนิกชนเฝ้าถวายสักการะแสดงมุทิตาจิต สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในพระอุโบสถ โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายยังคงมีประชาชนจำนวนมากที่ต่างก็เตรียมพุ่มดอกไม้และพวงมาลัยมาถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช ทยอยเดินทางมายืนเข้าแถวรอ ด้านนอกวัดโดยแถวยาวจากถนนอัษฎางค์ (เลียบคลองหลอด) ผ่านหน้าวัดราชบพิธฯ ตัดถนนเจริญกรุง บริเวณแยกสะพานมอญ แล้วตัดแยกสี่กั๊กพระยาศรีไปถึงถนนเฟื่องนคร

ขณะที่ด้านนอกวัดบริเวณถนนระหว่างกระทรวงมหาดไทย และวัดราชบพิธ มีเต็นท์และเก้าอี้มาตั้งให้พุทธศาสนิกชนที่เข้าแถวรอได้นั่งพักก่อนเข้ามาด้านในวัด ขณะที่ด้านนอกวัดมีหน่วยงานเอกชน และศิษยานุศิษย์ มาตั้งโรงทานแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้ผู้มาร่วมงาน ขณะเดียวกันมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้เข้ากราบเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ปักหลักรอถวายสักการะตลอดทั้งคืน บางส่วนมารอที่เต็นท์พักคอยซึ่งทางวัดจัดไว้ให้ ตั้งแต่รุ่งเช้าของวันนี้

ต่อมาเวลา 09.00 น. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จลงจากตำหนักอรุณ เข้าสู่พระอุโบสถทางประตูวิหาร ทิศตะวันออก จุดธูปเทียนบูชา พระอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ เสด็จขึ้นประทับพระอาสน์ ผินพระพักตร์ออกหน้าพระอุโบสถทิศตะวันออก โอกาสนี้พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) หัวหน้าพราหมณ์สังกัดกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง พร้อมด้วยคณะพราหมณ์ถวายน้ำสังข์ เพื่อแสดงมุทิตาจิตแด่องค์สมเด็จพระสังฆราช

พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ กล่าวว่า เป็นประเพณีในการเฝ้าถวายสักการะ ในทางคติความเชื่อพราหมณ์ พระสังข์เป็นที่เก็บน้ำของเทพมนต์เป็นมงคล จึงมาถวายสักการะแด่สมเด็จพระสังฆราช

จากนั้นพุทธศาสนิกชนทยอยขึ้นมากราบสมเด็จพระสังฆราช และนำดอกไม้เครื่องสักการะวางไว้ที่โต๊ะ ซึ่งทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมแนะนำข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่เข้ามาถึงภายในพระอุโบสถ คือพนมมือไหว้น้อมตัว โดยไม่ต้องกราบ แล้วเดินออกจากพระอุโบสถเพื่อความรวดเร็ว และห้ามถวายปัจจัยโดยเด็ดขาด ซึ่งทางวัดได้แจกพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ที่ประทับนั่งหน้าพระแท่นหน้าพระเศวตฉัตร ด้านบนซ้ายพระรูปเป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ “ออป” และหนังสือพระราชประวัติสมเด็จพระสังฆราช ที่เรียบเรียงโดย ผศ.ดร.ชัชพล ไชยพร รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ให้กับผู้ที่เข้าถวายสักการะ

จากนั้น เวลา 10.19 น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จออกจากพระอุโบสถประทับรถกอล์ฟ ของสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ขับวนซ้ายออกนอกประตูวัดทางถนนราชบพิธฯ เลี้ยวซ้ายไปทางถนนอัษฎางค์ (เลียบคลองหลอด) ผ่านหน้าวัดราชบพิธฯ ตัดถนนเจริญกรุง บริเวณแยกสะพานมอญ แล้วตัดแยกสี่กั๊กพระยาศรีไปถึงถนนเฟื่องนคร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เฝ้าถวายสักการะอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสกราบสักการะสมเด็จพระสังฆราช จึงทรงพระเมตตาเสด็จออกมาให้พุทธศาสนิกชนกราบสักการะอย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยทุกคนที่มาเฝ้ารอด้วยความอดทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยตลอดเส้นทางที่มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่มาต่อแถวรอเข้าไปในวัด เมื่อขบวนเสด็จผ่านต่างเปล่งเสียงสาธุ ดังอย่างต่อเนื่อง และก้มลงกราบสมเด็จพระสังฆราชด้วยความเลื่อมใสศรัทธา โดยทางวัดได้ขอความร่วมมือให้ทุกคนอยู่ในอาการสงบ และนั่งให้เรียบร้อย งดสวมหมวกและแว่นตาดำ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระโอษฐ์ ให้กับพุทธศาสนิกชนอย่างเป็นกันเองกับทุกคน

ต่อมาเวลา 10.42 น. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาถึงวัด และทรงกลับไปประทับที่ตำหนักพระอรุณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสมเด็จพระสังฆราช เสด็จกลับพระตำหนักอรุณแล้ว พุทธศาสนิกชนที่เดินตามขบวนรถเข้าไปกราบไหว้บนรถที่สมเด็จพระสังฆราชประทับ พร้อมทั้งก้มลงดูทะเบียนรถ 2293 ด้วยความสนใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน