ศาลจังหวัดนาทวีพิพากษาประหารชีวิตหนึ่งในคนร้ายปล้นเต็นท์รถมือสองที่อ.นาทวี จ.สงขลา นำไปทำคาร์บอมบ์ และจับพนักงาน 4 คน เป็นตัวประกัน ก่อนยิงเสียชีวิต 1 ราย เมื่อปี 2560

ประหารชีวิต / เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา พิพากษาคดีคนร้ายปล้นเต็นท์รถมือสองในอ.นาทวี เมื่อปี 2560 เพื่อนำรถไปประกอบระเบิด โดยถูกลงโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีงิต

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนาทวีนัดอ่านคำพิพากษา คดีคนร้ายปล้นรถยนต์เต็นท์ รถยนต์วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ เลขที่ 132 หมู่ที่ 6 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งเป็นคดีเหตุเกิด เมื่อเวลา 11.34 น. วันที่ 16 ส.ค.2560 โดยนำตัวเจ้าของเต็นท์พร้อมพนักงานในร้านไป 4 คน ก่อนจะยิงตัวประกันเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน หลบหนีได้ 2 คน

กรณีเหตุการณ์ดังกล่าว คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ จำนวน 5 คน ศาลจังหวัดนาทวี พิพากษา ให้ 1.นายอัตนันท์ หรือนัน สะอิ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้ายฯ อั้งยี่, ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

2.นายภาณุมาศน์ หรือจา หรือมะ หลีเส็น จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้ายฯ อั้งยี่, ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ ศาลพิพากษา ให้จำคุกตลอดชีวิต 3.นายมะรอยี หรือเปาซี หรือยี ราแดง จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้ายฯ อั้งยี่, ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ ศาลพิพากษา ให้จำคุกตลอดชีวิต

4.นายฮารียะ หรือแซะ การี จำเลยที่ 4 มีความผิดฐาน ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้ายฯ อั้งยี่, ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ ศาลพิพากษา ให้จำคุกตลอดชีวิต 5.นายอับดุลมานัส หรือมาน เจะเลาะ จำเลยที่ 5 มีความผิดฐาน เป็นอั้งยี่ ศาลพิพากษา ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน

ทั้งนี้ ภายหลังมีคำพิพากษา กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา สั่งการให้ทุกพื้นที่เพิ่มมาตรการเข้มข้นในการป้องกันเหตุไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยล่าสุดนั้นสถานการณ์เป็นไปอย่างปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน