รวบ หนุ่มภัยสังคม สวมรอยเฟซบุ๊ก ลวง200เหยื่อสาว เซ็กซ์โฟน อัดคลิปแบล็คเมล์

หนุ่มภัยสังคม / เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วยตำรวจ สตม. ตำรวจ บช.ทท.และชุดศปอส.ตร.

แถลงข่าวจับกุมนายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น อายุ 35 ปี พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคารและสมุดจดบัญชีเฟซบุ๊กปลอม

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 4 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) รับร้องเรียนว่ามีคนร้ายมีพฤติกรรมหลอกลวงโดยติดต่อผู้เสียหายทางแช็ตเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อ “กนกพร มิ้น เอี่ยมสะอาด”

มีการใช้ภาพหญิงหน้าตาดีและอ้างว่าเป็นตัวแทน เสนองานให้ผู้เสียหายโทรศัพท์เซ็กซ์โฟนกับลูกค้าชาย มีเงินค่าตอบแทนครั้งละ 5,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เสียหายจะต้อง แช็ตวีดีโอผ่านทางเฟซบุ๊กกับลูกค้าชายและต้องสำเร็จความใคร่ให้ลูกค้าดู หรือยั่วอารมณ์เพื่อให้ลูกค้าสำเร็จความใคร่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หลังจากที่ผู้เสียหายตกลงรับงานและมีการเริ่มแช็ตวีดีโอแล้ว นายกิตติศักดิ์จะแอบบันทึกภาพวีดีโอไว้ ก่อนนำมาข่มขู่ผู้เสียหายให้โอนเงินและทำตามเงื่อนไขที่เรียกร้อง เช่น ขอบัญชีพร้อมรหัสผ่านของเฟซบุ๊ก เพื่อแลกกับการไม่นำคลิปไปเผยแพร่ ซึ่งนายกิตติศักดิ์จะนำบัญชีเฟซบุ๊กที่ข่มขู่มาจากผู้เสียหาย มาใช้ในการหลอกลวงเหยื่อในรายอื่นต่อไป

ต่อมาชุดสืบสวนสืบสวนกระทั่งทราบชื่อคนร้ายในคดีนี้คือนายกิตติศักดิ์ และพบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดกำแพงเพชร จึงนำกำลังเข้าจับกุม ซึ่งในขณะจับกุมนายกิตติศักดิ์ อยู่ระหว่างการลักลอบใช้อินเตอเน็ตจากบ้านข้างเคียงหลอกลวงเหยื่อรายหนึ่งอยู่

จากจากการตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว พบมีเหยื่อหลงเชื่อ ส่งคลิปโป๊ให้รวมกว่า 200 ราย นอกจากนี้ยังพบบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท และสมุดบันทึกที่มีการจดข้อมูลเฟซบุ๊กที่ปลอมขึ้นมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง

โดยเมื่อข่มขู่สำเร็จจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีเว็บไซต์พนันออนไลน์เพื่ออำพรางตัว ก่อนจะถอนเงินเข้าบัญชีตัวเองและลบบัญชีเฟซบุ๊กของเหยื่อที่ข่มขู่มาได้ เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ ส่วนเงินที่ได้มานำมาใช้ในชีวิตประจำวันเนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง

เบื้องต้นแจ้งข้อหา กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอม ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน