ผบก.น.5 สั่งเร่งล่าตัว โจรใส่วิก ปล้นทอง 215 บาท ขู่ระเบิดร้าน ลุยเช็กวงจรปิดนับร้อย พบจักรยานยนต์ต้องสงสัย เร่งพิสูจน์หาเจ้าของ เช็กแผนประทุษกรรม พบลักษณะก่อเหตุคล้ายอีกหลายที่
จากกรณีชายคนร้ายใส่วิกผม สวมแว่นตา และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า จี้ชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 215 บาท มูลค่าราว 4 ล้านบาท ออกไปจากร้านทองออโรร่า ชั้น 1 ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพระราม 4 ก่อนหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ใกล้กับบริเวณห้าง เมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. วันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
- อ่านข่าว : โจรสวมวิกปลอมตัว ปล้นร้านทอง ออโรร่าห้างดังกลางกรุง กวาด 200 บาท
- อ่านข่าว : วงจรปิดนาที พนักงานผวา ขู่บึ้ม โจรสวมวิก ปืนจ่อ ปล้นทอง 215บาท ห้างดังกลางกรุง
- อ่านข่าว : ล่าโจรใส่วิก ปล้นทอง 215 บาท ขู่ไม่ให้จะระเบิดร้าน ตร.คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 เปิดเผยความคืบหน้าว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้เร่งรัดดำเนินการดูกล้องวงจรปิดในเส้นทางย้อนหลังตามสถานที่ห้างและเส้นทางที่หลบหนีอื่น ๆ อยู่ พร้อมทั้งตรวจสอบแผนประทุษกรรม ผู้ที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ทราบถึงรูปหน้าก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาภาพหน้าของคนร้าย
“หากได้ภาพหน้าคนร้ายก็จะทำให้การพิสูจน์ทราบต่าง ๆ จะเกิดความถูกต้องในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับ ส่วนจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนนั้น อยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานและตรวจสอบผู้ครอบครองและผู้ที่นำรถมาใช้ ซึ่งการทำงานของงานสืบสวนอาจจะเป็นอุปสรรค เพราะอยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบผู้ครอบครองหรือผู้ที่ใช้รถคันนี้ หากนำเสนอไปเขาไปตั้งหลักปกปิดญาติเขาที่นำไปใช้ซึ่งยังอยู่ระหว่างหารูปหน้าเต็มของคนร้ายรายนี้ ถ้าเรามีรูปหน้าแล้วคงไม่เป็นปัญหา เพราะไปเทียบเคียงกับผู้ครอบครองหรือญาติผู้ครอบครองได้” ผบก.น.5 กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ชุดสืบสวนได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 100 ตัว ตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมถึงกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าที่สามารถบันทึกภาพขณะคนร้ายก่อเหตุ แต่ยังเป็นภาพในระยะไกล
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้ยังขาดภาพวงจรปิดที่จับภาพใบหน้าของคนร้ายในลักษณะหน้าตรง คาดว่ากล้องวงจรปิดของร้านทองที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด โดยชุดสืบสวนต้องรอทางสำนักงานใหญ่ของร้านทองนำภาพวงจรปิดมาให้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุที่คาดว่าทำให้คนร้ายเลือกก่อเหตุที่ร้านทองดังกล่าว เนื่องจากมาตรการการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างหละหลวม ไม่มีลูกกรงกั้น มีแต่พนักงานผู้หญิง ขณะที่การเทียบเคียงแผนประทุษกรรมของคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้ กับเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ พบว่ามีลักษณะคล้ายกันหลายคดี
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ซึ่งเป็นการแต่งกายอำพรางใบหน้า ปลอมตัวเป็นผู้หญิง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายรายนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้าย คาดว่าน่าจะคงยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบรถจักรยานยนต์ใกล้ที่เกิดเหตุ รวมถึงยังอยู่ระหว่างติดตามตัวเจ้าของรถดังกล่าว เนื่องจากพบว่าอยู่ที่ต่างจังหวัด
