เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4,นายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผอ.ปปส.ภ.4 และ พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาไอซ์ น้ำหนักรวม 85.98 กก. คิดรวมมูลค่ากว่า 86,000,000 บาท หลังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.จว.บึงกาฬ สนธิกำลังร่วมกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครองและ ปปส.ภ.4 ทำการตรวจยึดมาได้ บริเวณสวนยางพารา ม.1 ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

[udplayer type=”video/mp4″ src=”https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/v/2017_01/drdr01.mp4″]
พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ยาไอซ์ทั้งหมด ถูกบรรจุอยุ่ในหีบห่อมาเป็นอย่างดี ซึ่งกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติพยายามที่จะลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และให้สามารถเคลื่อนย้านได้ง่ายที่สุด โดยยาไอซ์เกือบ 86 กก. นี้บรรจุมาในรูปแบบของชาจีน ซึ่งห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์สีทอง หน้าห่อระบุยี่ห้อ Guanyin Wang เพื่อหวังหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และหากมีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า ยาไอซ์ที่ยึดได้ล่าสุดนี้เป็นกลุ่มขบวนการเดียวกันที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ทำให้แน่ใจว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงยาไอซ์จากเดิม จาก ประเทศเมียนมา เข้าประเทศไทยผ่านทางภาคเหนือวันนี้มีการปรับแผนจากประเทศเมียนมา ผ่าน สปป.ลาว และเข้าประทเศไทย ผ่านภาคอีสาน โดยยังคงใช้พื้นที่จังหวัดตามลำน้ำโขงเช่นเดิม

 

“กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติเริ่มลองของกับตำรวจอีสาน ในการส่งยาไอซ์เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจอีสานตอนบนของเรามีผลการจับกุมกัญชาและยาบ้า อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดผลการจับกุมทุกวัน ซึ่งในจุดนี้กลุ่มผู้ต้องหาอาจจะมองว่าเราถนัดในเรื่องการตรวจจับเฉพาะกลุ่ม จึงลองส่งยาไอซ์เข้ามาในพื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางลำเลียงใหม่ แต่กำไม่สามารถที่จะตบตาความสามารถของตำรวจอีสานตอนบนของเราไปได้ อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบนเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบอย่างละเอียดและรอบคอบมากขึ้นหลังตลอดทั้งสัปดาห์นี้มีการลัดกลอบนำเข้ายาไอซ์มาในประเทศไทยจำนวนมาก จากผลการจับกุมของกำลังเจ้าหน้าที่ในทั่วทุกภูมิภาคของไทย”

 
พล.ต.ท.จตุพล กล่าวต่ออีกว่า ยาไอซ์ลอตดังกล่าวนี้จะเชื่อโยงกับเครือข่ายของ “ไซซะนะ” หรือไม่เจ้าหน้าที่ของเรากำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาข้อมูล โดยยังคงไม่ปักใจเชื่อไม่ว่าจะมีข้อมูลมาในรูปแบบใด ขณะเดียวกันได้ประสานงานร่วม ปปส.และปปง.ทำการยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานให้หมด เพราะตนเองนั้นยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้ค้ายาเสพติดทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่เข้ามาใช้พื้นที่ภาคอีสานตอนบนในความรับผิดชอบนั้นทำมาหากินในสิ่งที่ผิดกฎหมายของไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่เสี่ยง ตลอดแนวลำน้ำโขง ในเขต จ.บึงกาฬ เบื้องต้น 5 จุด ประกอบด้วยที่ ต.หอคำ ต.เหล่าหลวง และเขต อ.เมือง จ.บึงกาฬ รวมทั้งพื้นที่ อ.ปากคาด และ อ.บุ่งคล้า เพื่อสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ลักลอบนำเข้าประเทศไทยในจุดดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน